ปารีส (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์)-ชาวฝรั่งเศสเริ่มออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎร รอบแรกเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. เป็นการเลือกตั้งก่อนกำหนดที่อาจทำให้ฝรั่งเศสมีรัฐบาลขวาจัดชุดแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากไปใช้สิทธิลงคะแนน หลังจากคูหาเลือกตั้งเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. วานนี้ตามเวลาฝรั่งเศส (30 มิ.ย.) ตรงกับเวลา 13.00-23.00 น. วันเดียวกันตามเวลาไทย โดยจะขยายเวลาปิดไปอีก 2 ชั่วโมงสำหรับเมืองใหญ่ มีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 577 เขต แต่ละเขตมี สส.ได้เพียง 1 คน จะใช้การเลือกตั้ง 2 รอบ ผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งในรอบแรกจะต้องได้คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด และได้คะแนนอย่างน้อยร้อยละ 25 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในเขตนั้น หากไม่มีผู้สมัครคนใดผ่านเกณฑ์ดังกล่าว ก็จะมีการเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งเปิดให้เฉพาะผู้สมัครรอบแรกที่ได้คะแนนอย่างน้อยร้อยละ 12.5 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในเขตนั้น แต่หากมีผู้สมัครผ่านเกณฑ์คนเดียว จะให้ผู้สมัครที่มีคะแนนมากที่สุด 2 คนแรกได้ลงเลือกตั้งรอบ 2 ผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงข้างมากจากส่วนใหญ่ จะเป็นผู้ชนะ ได้ดำรงตำแหน่งวาระ 5 ปี คาดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนจำนวนมาก เนื่องจากหลายฝ่ายตื่นตัวกับการเลือกตั้งรอบนี้

ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส สร้างความตกใจให้คนทั้งประเทศ ด้วยการประกาศยุบสภาจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 9 มิถุนายน ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากพันธมิตรพรรคการเมืองสายกลางของเขาพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป ให้แก่พรรคเนชันนัลแรลลี หรืออาร์เอ็น ที่เป็นพรรคการเมืองขวาจัดที่ไม่สนับสนุนสหภาพยุโรปหรืออียูและต่อต้านคนเข้าเมือง

มารีน เลอ เปน อดีตประธานพรรคอาร์เอ็น แสดงความมั่นใจว่า จะชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด หรือได้ที่นั่งอย่างน้อย 289 ที่นั่ง แม้จะมีเวลารณรงค์หาเสียงเพียง 20 วัน และคาดว่า ฌอร์ดอง บาร์เดลญา ประธานพรรคคนปัจจุบัน ที่มีอายุเพียง 28 ปี จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยหากผลเลือกตั้งเป็นเช่นนั้นจริง การเมืองฝรั่งเศสเสี่ยงเกิดความวุ่นวาย เนื่องจากประธานาธิบดีมาครง วัย 46 ปี ที่มีนโยบายสายกลาง ยืนยันจะดำรงตำแหน่งจนครบวาระในปี 2570แต่เขาก็แทบจะไม่มีอำนาจในมือเลย หากสมาชิกพรรคอาร์เอ็น ได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร