29 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลฝรั่งเศสได้ตัดสินจำคุก โจเอล เลอ สคูอาร์เน็ก อดีตศัลยแพทย์ชาวฝรั่งเศส วัย 74 ปี ฐานข่มขืนและล่วงละเมิดเด็กผู้ป่วยในโรงพยาบาลกว่า 299 ราย ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี

โจเอล เลอ สคูอาร์เน็ก ถูกตัดสินจำคุกหลังยอมรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริง โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ป่วยที่อยู่ในอาการหมดสติหรือถูกวางยาเฉลี่ยอายุเพียง 11 ปี ทำให้คดีนี้กลายเป็นหนึ่งในคดีล่วงละเมิดเด็กที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส และก่อให้เกิดคำถามว่าทำไมเขาจึงสามารถก่อเหตุได้เป็นเวลานานเช่นนี้

โดยศาลอาญาเมืองมอร์บิฮาน ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ได้ตัดสินตามข้อเสนอของอัยการ โดยระบุว่า นายสคูอาร์เน็ก ต้องรับโทษจำคุกอย่างน้อย 2 ใน 3 ของโทษ ก่อนที่จะมีสิทธิ์พิจารณาปล่อยตัว เนื่องจากยังคงถือว่าเป็นบุคคลอันตราย

อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ได้สั่งให้มีการควบคุมตัวหลังพ้นโทษ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มเหยื่อจำนวนมาก

โซเลน โปเดวิน ฟาฟร์ ประธานองค์กรช่วยเหลือเหยื่อเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ แสดงความผิดหวังต่อคำพิพากษา โดยระบุว่า “แม้จะเป็นโทษสูงสุดตามกฎหมาย แต่ก็ยังไม่ถึงที่เราคาดหวังไว้” พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเขาอาจพ้นโทษได้ในอีก 6 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

นาย สคูอาร์เน็ก ซึ่งถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี 2017 กำลังรับโทษจำคุก 15 ปี จากคำพิพากษาเมื่อปี 2020 ในคดีล่วงละเมิดเด็ก 4 ราย รวมถึงหลานสาว 2 คน ภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส โทษจำคุกจะนับรวมกัน ทำให้เขาจะเริ่มรับโทษใหม่หลังจากพ้นโทษเดิม

สำหรับมาตรการควบคุมตัวหลังพ้นโทษ เป็นมาตรการพิเศษที่ฝรั่งเศสใช้กับผู้กระทำความผิดอันตรายร้ายแรงที่สุดเท่านั้น หากศาลมีคำสั่งบังคับใช้ เลอ สคูอาร์เน็ก อาจต้องถูกกักขังในสถานพยาบาลพิเศษไปตลอดชีวิต แม้พ้นโทษจำคุกแล้วก็ตาม

ศาลกล่าวว่า “เราเข้าใจคำร้องขอจากฝ่ายเหยื่อที่ไม่ต้องการให้เขาได้รับการปล่อยตัว อย่างไรก็ตาม การที่หวังว่าความยุติธรรมสามารถทำเช่นนั้นได้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน”

ด้านทนายความของ นายสคูอาร์เน็ก ยืนยันว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน

ทั้งนี้ คดีนี้ถูกเปิดเผยหลังจากเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของ นายสคูอาร์เน็ก เล่าให้แม่ฟังว่าชายข้างบ้านลวนลามและโชว์ของลับผ่านรั้วบ้าน 

ซึ่งการบุกค้นบ้านของ นายสคูอาร์เน็ก พบไฟล์ภาพอนาจารเด็กกว่า 300,000 ภาพ วิดีโอแนวเพศสัมพันธ์กับสัตว์จำนวน 650 ไฟล์ รวมถึงสมุดบันทึกที่เขาใช้บรรยายการล่วงละเมิดเหยื่ออย่างละเอียด

แม้ขนาดของคดีจะใหญ่โต แต่ นายสคูอาร์เน็ก กลับมีท่าทีเยือกเย็นและไร้อารมณ์ตลอดการพิจารณาคดี เขากล่าวว่า “ผมไม่ได้มองพวกเขาเป็นมนุษย์ แต่เป็นเป้าหมายของจินตนาการทางเพศของผม”

อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่า นายสคูอาร์เน็ก แสดงออกถึงความตั้งใจที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของตน และพยายามชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ

ขณะที่เหยื่อหลายรายหวังว่าคดีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปกฎหมายและมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกในอนาคต

ซึ่งคาดว่าการพิจารณาคดีครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นอีกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หลังมีการเปิดเผยหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดที่เกิดขึ้นกับหลานสาวของเขาเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : AP