มือปืนชายวัย20ก่อเหตุช็อกโลก!

ยิง‘โดนัลด์.ทรัมป์’

กลางเวทีหาเสียงชิงปธน.สหรัฐ

กระสุนเจาะใบหู/เลือดไหลอาบ

มือปืนถูกจนท.วิสามัญตายคาที่

‘ทรัมป์’ปลอดภัย-ลุยหาเสียงต่อ

มือปืนชายวัย 20 ปี ลอบยิงอดีตประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” บาดเจ็บ ขณะปราศรัยหาเสียงบนเวทีที่เพนซิลเวเนีย กระสุนถูกใบหูเลือดอาบโดยมือปืนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิสามัญเสียชีวิต และยังมีประชาชนที่มาฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 หลังนำทรัมป์ส่งโรงพยาบาล ทีมงานหาเสียงแถลงการณ์ยืนยัน “ทรัมป์”ปลอดภัยดีแล้ว พร้อมเดินหน้าหาเสียงต่อ ขณะที่ “ไบเดน-อดีต ประธานาธิบดี”รุมประณามการกระทำรุนแรง เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในอเมริกา ส่วนนายกฯไทยเผยทราบข่าวแล้ว รับตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ชี้ระบบรปภ.ที่มีอยู่ดีแล้ว เป็นหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ในการสมัครรับเลือกตั้งสหรัฐที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ ถูกลอบยิงขณะปราศรัยในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย เมื่อช่วงวันเสาร์ (13 กรกฎาคม) ตามเวลาท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รีบนำตัวปรัมป์ ที่ใบหน้าเปื้อนเลือดลงจากเวทีส่งโรงพยาบาลทันที ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเอามือกุมใบหูที่เปื้อนเลือดไว้ ยังหันมาชูกำปั้นให้ผู้มาร่วมงาน ซึ่งระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังต่อเนื่องตามมาอีกหลายครั้ง

‘ทรัมป์’ถูกยิงกระสุนเจาะหูเลือดอาบ

ต่อมา ทรัมป์โพสต์ใน Truth Social ส่วนตัวระบุว่า ตนถูกกระสุนยิงเจาะหูข้างขวา ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังหวีดและเสียงปืนดังขึ้น และรู้สึกถึงกระสุนที่ฉีกทะลุผิวหนัง มีเลือดออกมาก จึงรู้ว่าตัวเองถูกยิง

รายงานข่าวระบุ เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 รายคือ มือปืนซึ่งเป็นชายที่ทำการโจมตี โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขายิงเสียชีวิตแล้ว และอีก 1 รายเป็นผู้เข้าร่วมฟังการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์

มือปืนเป็นชายวัย20ถูกการ์ดยิงตาย

สำนักข่าวเอพีอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวระบุ มือปืนที่ก่อเหตุ เป็นชายวัย 20 ปี จากรัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐอเมริกา แจ้งว่า ชายที่ก่อเหตุ ชื่อโธมัส แมธิว ครุกส์ วัย 20ปี โดย ครุกส์ มาจากเมืองเบเธล พาร์ค รัฐเพนซิลวาเนีย ซึ่งเมืองดังกล่าว อยู่ห่างจากจุดที่ก่อเหตุยิงทรัมป์ ที่เมืองบัทเลอร์ประมาณ 70 กิโลเมตร

ผู้เห็นเหตุการณ์เผยกับสำนักข่าว BBC ว่า พวกเขาเห็นชายที่มีปืนไรเฟิลคลานอยู่บนหลังคาในบริเวณใกล้เคียง ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น

ทีมงานแถลงทรัมป์ปลอดภัยแล้ว

หลังเกิดเหตุทีมงานหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัออกแถลงการณ์แจ้งว่าเกิดเสียงปืนดังขึ้นระหว่างที่ทรัมป์กำลังปราศรัย อยู่บนเวทีหาเสียง ที่เมืองบัตเลอร์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ ซึ่งทรัมป์ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนถูกใบหู เจ้าหน้าที่อารักขาจากสำนักงานซีเครต เซอร์วิส ซึ่งยังคงให้ความคุ้มครองแก่ทรัมป์ในฐานะอดีตประธานาธิบดี นำตัวเข้ารับการตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน ซึ่งตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีด้านสำนักงานซีเครตเซอร์วิสออกแถลงการณ์เพิ่มเติม ว่าอดีตผู้นำสหรัฐ ปลอดภัยแล้ว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

เดินหน้าหาเสียงต่อเมืองมิลวอกี

อย่างไรก็ตาม ทีมงานรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ออกมาระบุช่วงค่ำวันเดียวกันว่า การณรงค์หาเสียงของทรัมป์จะยังคงดำเนินต่อไป และทรัมป์ตั้งตารอที่จะได้พบกับผู้สนับสนุนทุกคนในเมืองมิลวอกี

สตีเฟน เฉิง โฆษกของทีมหาเสียงของทรัมป์บอกด้วยว่า ทรัมป์ขอบคุณหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งตอบสนองต่อเหตุชั่วร้ายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมยืนยันว่า ทรัมป์สบายดี

“ไบเดน-อดีตปธน.”ประณามความรุนแรง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายออกมาประณามผู้ก่อเหตุอย่างหนัก จากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยทีมงานหาเสียงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ออกแถลงการณ์ของไบเดนว่า โล่งใจและยินดีที่ทรัมป์ปลอดภัยแล้ว พร้อมส่งกำลังใจให้ทรัมป์ รวมถึงประชาชน ซึ่งเข้าร่วมฟังการปราศรัยของอดีตผู้นำสหรัฐในช่วงเกิดเหตุด้วย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้นำสหรัฐยังประณามความพยายามในการลอบยิงนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีว่า ไม่มีที่สำหรับความรุนแรงเยี่ยงนี้ในอเมริกา น่ารังเกียจมาก และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมประเทศของเราจึงต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เราไม่อาจเป็นเช่นนี้ได้ และเราไม่อาจให้อภัยต่อสิ่งเหล่านี้ได้

“ความคิดเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมือง หรือความรุนแรงเช่นนี้ในอเมริกา เป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน มันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทุกคนต้องประณามสิ่งนี้” ไบเดนกล่าว

เช่นเดียวกับ บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า ไม่มีที่สำหรับความรุนแรงทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเรา ถึงแม้ว่าเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราทุกคนควรโล่งใจที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และใช้ช่วงเวลานี้เพื่อพิจารณาอีกครั้งต่อการน้อมรับความสุภาพและความเคารพในการเมืองของเรา

ขณะที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประณามการโจมตีของพวกขี้ขลาด และยินดีที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ปลอดภัย หลังความพยายามโจมตีชีวิตของเขาของพวกขี้ขลาด และขอยกย่องชายและหญิงของหน่วยสืบราชการลับสำหรับการตอบสนองที่รวดเร็วของพวกเขา

ด้านชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากล่าวว่า ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ในเพนซิลเวเนีย และโล่งใจที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ปลอดภัย พร้อมยืนยันว่าไม่มีที่สำหรับความรุนแรงทางการเมืองในประเทศของเรา

มิทช์ แมคคอนเนลล์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาโพสต์ว่า ชาวอเมริกันทุกคนยินดีที่ประธานาธิบดีทรัมป์สบายดีแล้ว หลังการโจมตีอย่างน่ารังเกียจต่อการชุมนุมโดยสันติ ความรุนแรงไม่มีที่ยืนในการเมืองของเรา

สภา-หน่วยอารักขาสอบความหละหลวม

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันจะเปิดการสอบสวนถึงการที่มีมือปืนสามารถหลบหลีกเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขา ปีนขึ้นไปบนหลังคาของอาคารใกล้เคียงกับจุดที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐกำลังหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะสาดกระสุนหลายนัดจนทำให้ทรัมป์ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บที่หูขวา และมีผู้ร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่มือปืนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุว่า คณะกรรมการของสภาล่างจะเรียกตัวเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขา กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) มาชี้แจงต่อคณะกรรมการในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ช่วงแรกหลังเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ สื่อหลายสำนักได้รายงานว่ามือปืนผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณนอกขอบเขตการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่หาเสียง ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาพบเห็นชายถือปืนและพยายามบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยอารักขาแต่ไม่เป็นผล ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายคนได้กล่าวโจมตีหน่วยอารักขา ที่มีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของทรัมป์ในฐานะอดีตประธานาธิบดี Jack Posobiec นักเคลื่อนไหวสายอนุรักษนิยมกล่าวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ X ว่า สไนเปอร์พร้อมปืนไรเฟิลครบชุดปีนขึ้นไปบนหลังคาอาคารที่ใกล้ตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้อย่างไร

Kevin Rojek เจ้าหน้าที่พิเศษของเอฟบีไอกล่าวในการแถลงข่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่มือปืนสามารถยิงกระสุนออกไปได้มากขนาดนั้น ด้านหน่วยอารักขากำลังสอบสวนว่ามือปืนเข้าไปใกล้พอที่จะยิงทรัมป์จนได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร สำนักข่าวเอพีได้วิเคราะห์วิดีโอและภาพถ่ายจำนวนมาก รวมถึงภาพถ่ายดาวเทียมของจุดเกิดเหตุ พบว่ามือปืนสามารถเข้าใกล้เวทีหาเสียงของทรัมป์มาก

สำนักข่าวเอพี ได้ตรวจสอบภาพวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นร่างมือปืนใส่เสื้อสีเทานอนนิ่งอยู่บนหลังคาโรงงานทางทิศเหนือของบัตเลอร์ ฟาร์มโชว์ที่ทรัมป์ใช้เป็นพื้นที่หาเสียง อยู่ห่างจากจุดที่ทรัมป์กำลังยืนปราศรัยไม่ถึง 150 เมตร ใกล้พอที่มือยิงจะสามารถเล็งวัตถุขนาดเท่าตัวมนุษย์ได้ เอฟบีไอได้เปิดเผยชื่อมือปืนก่อเหตุแล้วคือ นายโธมัส แมทธิว ครุกส์ วัย 20 ปีชาวรัฐเพนซิลเวเนีย และลงทะเบียนเป็นรีพับลิกัน ตามข้อมูลของบันทึกผู้มีสิทธิเลือกตั้งของเพนซิลเวเนีย ด้านสื่อสหรัฐรายงานว่าผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ AR-15 แต่ยังไม่สามารถระบุถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ

ทั้งนี้ การหาเสียงส่วนใหญ่ของทรัมป์จะมีผู้รับฟังการปราศรัยหลายพันคน จะมีการจัดงานขึ้นกลางแจ้ง และกินระยะเวลานานหลายชั่วโมง โดยจะมีตำรวจในพื้นที่ เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาคอยรักษาความปลอดภัยในสถานที่จัดงาน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมาช่วยงานบ้างเป็นบางครั้ง และก่อนที่การปราศรัยจะเริ่มขึ้นจะมีการตรวจหาวัตถุระเบิดหรืออาวุธอื่นๆ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมักตั้งแนวแบริเออร์และให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนต้องเข้าเครื่องตรวจจับโลหะก่อนเข้าไปในพื้นที่ปราศรัย โดยมีเจ้าหน้าที่คุ้มกันตรวจค้นกระเป๋าและตรวจค้นอาวุธบนตัวผู้เข้าร่วมงานด้วยมือ โดยในงานหาเสียงของทรัมป์ครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ทีมสไนเปอร์และทีมหน่วยตอบโต้การโจมตีอยู่ภายในงานด้วยเช่นกัน

นายพอล เอคลอฟฟ์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขากล่าวว่า เจ้าหน้าที่อาจทำการตรวจตราหลังคาอาคารใกล้เคียงก่อนเวลาเริ่มปราศรัยแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุอาจหลบซ่อนตัวจนสามารถเริ่มทำอันตรายได้ หรืออาจไม่เป็นภัยคุกคามอันตรายจนกระทั่งหยิบอาวุธขึ้นมา

เปิดปูมลอบฆ่าปธน.-ผู้สมัครปธน.สหรัฐฯ

สำนักข่าวเอเอฟพี รวบรวมเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่เคยเกิดขึ้นในอดีตของการเมืองสหรัฐอเมริกา ปี1981 โรนัลด์ เรแกน ถูกยิงขณะเป็นประธานาธิบดี และได้รับบาดเจ็บ ขณะกำลังเดินทางออกจากงาน ที่โรงแรมฮิลตัน ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1981 คนร้ายคือ จอห์น ฮิงคลีย์ จูเนียร์ โดยเรแกน ใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาล 12 วัน เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ความนิยมในตัวเรแกนเพิ่มมากขึ้น

ปี 1975 ประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด ถูกลอบสังหารโดยผู้หญิงถึง 2 ครั้ง ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ประธานาธิบดีฟอร์ดไม่ได้รับบาดเจ็บ ปี 1972 จอร์จ วอลเลซ ขณะหาเสียงในฐานะตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเมืองลอเรล รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา จอร์จ วอลเลซ ถูกยิง 4 ครั้ง และเป็นอัมพาตตลอดชีวิต

ปี 1968 โรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี น้องชายประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี ถูกลอบยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 1968 ระหว่างหาเสียงรณรงค์เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

ปี1963 ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี ถูกลอบสังหารเสียชีวิต ขณะนั่งอยู่บนรถที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 มือปืนคือ ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์

ปี1933 ประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี.รูสเวลต์ ตกเป็นเป้าถูกลอบสังหาร ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยรูสเวลต์ปลอดภัยดี แต่นายแอนตัน เซอร์แม็ค นายกเทศมนตรีนครชิคาโก ถูกสังหารในเหตุการณ์ดังกล่าว

ปี1912 ทีโอดอร์ รูสเวลต์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และในฐานะเคยเป็นประธานาธิบดีสหรัฐมาก่อน และถูกลอบยิงขณะหาเสียงอยู่ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา แต่รอดชีวิตมาได้ และหัวกระสุนยังอยู่ที่หน้าอกของเขา เนื่องจากหมอไม่อยากผ่ากระสุนออกมา เพราะอยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงเกินไป

ปี1901 ประธานาธิบดี วิลเลียม แมคคินลีย์ ถูกลอบยิงวันที่ 6 กันยายน 1901 ในงานเลี้ยงรับรองของรัฐบาล ที่นิวยอร์ก ก่อนเสียชีวิตในอีก 8 วันต่อมา คนร้ายเป็นพวกหัวรุนแรง ชื่อ ลีออน คอนโกรสซ์

ปี 1865 ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 14 เมษายน 1865 ที่โรงละครฟอร์ด ในกรุงวอชิงตัน มือปืนคือ จอห์น วิลค์ส บูธ นักแสดงบนเวที ก่อนที่ลินคอล์นจะเสียชีวิตในวันต่อมา

นายกฯทราบข่าวแล้ว-ปัดเพิ่มแผนรปภ.

ที่จังหวัดเชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจากพรรครีพับลิกันขณะปราศรัยหาเสียงบนเวที ในรัฐเพนซิลเวเนียว่า รับทราบเหตุการณ์แล้ว จากการติดตามสถานการณ์ข่าวด้วยตัวเองจากบีบีซี และโซเชียลมีเดีย กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้รายงานเข้ามา ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ไม่มีที่ไหนทำแบบนี้อีกแล้ว น่าตกใจ คือเพิ่งเริ่มการแข่งขัน และรัฐเพนซิลเวเนียเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีไทย จะเพิ่มมาตรการในการลงพื้นที่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ประเทศเรากับประเทศเขามันต่างกัน ตนเชื่อว่า ระบบรักษาความปลอดภัยของเราดีพออยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงแล้วกัน