7 สิงหาคม 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อามิต เมห์ตา ผู้พิพากษาศาลแขวงในกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ มีคำพิพากษาว่า ธุรกิจบริการการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของกูเกิลละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดของสหรัฐฯ โดยกูเกิล (Google) จ่ายเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีทำสัญญาพิเศษเพื่อให้ตั้งค่าให้กูเกิลเป็นผู้ให้บริการการค้นหาหลักบนสมาร์ทโฟนและเว็บไซต์  ซึ่งเป็นการสกัดคู่แข่งรายอื่น และผู้พิพากษา ระบุด้วยว่า พฤติกรรมกีดกันการแข่งขันจำเป็นต้องหยุด

โดยคำตัดสินครั้งสำคัญนี้อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดเสิร์ชเอนจินและโฆษณาออนไลน์ ที่กูเกิลผูกขาดตลาดมานานหลายปี

แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า กูเกิล และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่จะได้รับบทลงโทษอย่างไร ซึ่งศาลจะมีการพิจารณาตัดสินโทษ ที่อาจเป็นการจ่ายค่าปรับหรือมาตรการเยียวยาใดๆ ในภายหลัง ขณะที่รัฐบาลเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้าง ซึ่งในทางทฤษฎี หมายถึง อาจต้องมีการแยกบริษัท ขณะที่อัลฟาเบทมีแผนยื่นอุทธรณ์สู้คดี

โดยกูเกิล (Google) ถูกยื่นฟ้องโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในปี 2563 เนื่องจากควบคุมส่วนแบ่งตลาดการค้นหาออนไลน์มากถึงเกือบ 90% และคดีนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คดีที่รัฐบาลยื่นฟ้องต่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ซึ่งรวมถึง เมตา แพลตฟอร์ม ที่เป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก, แอมะซอน ดอต คอม และแอปเปิล อิงค์ ในคดีผูกขาดตลาด

อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ยกย่องคำตัดสินคดีล่าสุดว่าเป็น “ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์สำหรับประชาชนชาวอเมริกัน” และบอกด้วยว่า “ไม่มีบริษัทใด ไม่ว่าจะใหญ่หรือมีอิทธิพลแค่ไหน อยู่เหนือกฎหมายได้” นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่า กระทรวงยุติธรรมจะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายป้องกันการผูกขาดอย่างเคร่งครัด