สหรัฐฯ ปัดเอี่ยวโค่นผู้นำบังกลาเทศ

วอชิงตัน - โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวกรณีมีกระแสข่าวและรายงานว่า สหรัฐฯ มีบทบาทในการขับไล่ เชค ฮาซินา อดีตนายกรัฐมนตรีของบังกลาเทศ ที่เวลานี้ลี้ภัยอยู่ในอินเดีย โดยระบุว่าสหรัฐฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในบังกลาเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น การกล่าวหาสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่จริง โฆษกทำเนียบขาวแถลงด้วยว่า สหรัฐฯ เชื่อมั่นว่าชาวบังกลาเทศจะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง และสหรัฐฯ เองก็ยึดมั่นในจุดยืนนี้ก่อนหน้านี้ มีรายงานในหนังสือพิมพ์อีโคโนมิคไทม์ส ในอินเดีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อ้างคำกล่าวของฮาซินาที่กล่าวหาสหรัฐฯ ว่ามีส่วนร่วมในการขับโค่นล้มเธอออกจากตำแหน่ง เนื่องจากสหรัฐฯ ต้องการเข้ามาควบคุมเกาะเซนต์ มาร์ติน ในอ่าวเบงกอล เหตุการณ์ประท้วงในบังกลาเทศที่เกิดขึ้นมานานนับเดือน มีชนวนเหตุมาจากความไม่พอใจของนักศึกษาที่ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกการจัดสรรโควตาเข้ารับราชการไว้สำหรับบุตรหลานของทหารผ่านศึก ที่เคยร่วมรบในสงครามเรียกร้องเอกราชเมื่อปี 2514 นอกจากนี้ ยังมีประชาชนร่วมผสมโรงจากความไม่พอใจเรื่องปัญหาปากท้อง

เมียนมาปล่อยตัวนักโทษญี่ปุ่น

ย่างกุ้ง - บรรษัทแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้ปล่อยตัว ฮิโรชิคาซามัตสึ พนักงานบริษัทชาวญี่ปุ่นที่ต้องโทษจำคุกในนครย่างกุ้งเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 12 ส.ค คาซามัตสึ เป็นเจ้าหน้าที่ด้านสินค้าของบริษัทอิออน ออเรนจ์ (AEON Orange) ที่ให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตในเมียนมา เขาถูกตำรวจจับกุมตัวเมื่อเดือนมิถุนายน ด้วยข้อหาจำหน่ายข้าวสารในราคาสูงเกิดกว่าที่รัฐบาลทหารกำหนด ตามมาตรการควบคุมเงินเฟ้อและราคาสินค้าพุ่งสูง ต่อมาถูกศาลสั่งจำคุก 1 ปีฐานละเมิดกฏหมายควบคุมราคาข้าวสาร ก่อนได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังจากรับโทษไปรวม 1 เดือนครึ่ง โดยที่ทางการเมียนมาไม่ได้เปิดเผยสาเหตุของการปล่อยตัว ทั้งนี้ เมียนมาอยู่ในภาวะโกลาหลวุ่นวายตั้งแต่กองทัพเข้าโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวาง และพัฒนาไปเป็นการต่อต้านด้วยอาวุธทั่วประเทศ