ปูตินเปิดใช้เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์

มอสโก – ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ร่วมในพิธีเปิดใช้เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ เพิร์ม ที่ตั้งชื่อตามชื่อเมืองในภูมิภาคอูราลส์  ผ่านระบบวีดิโอลิงค์เชื่อมต่อกับอู่ต่อเรือในเมืองเซเวรอดวินส์ก  ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และระบุด้วยว่า เพิร์ม เป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ลำแรกที่ติดเขี้ยวเล็บที่เป็นขีปนาวุธเร็วเหนือเสียง เซอร์คอน  เป็นอาวุธมาตรฐาน ขีปนาวุธเร็วเหนือเสียง เซอร์คอน  มีพิสัยการยิงไกล 1,000 กิโลเมตร และด้วยการเคลื่อนที่ระดับเร็วเหนือเสียงทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะป้องกันหรือสกัดต้านทานได้ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ เพิร์ม  เป็นเรือดำน้ำลำที่ 6 ในชั้น ยาเซน และ ยาเซน-เอ็ม ที่ต่อโดยอู่ต่อเรือเซฟมาชใกล้เมืองเมอร์มันส์ก ขณะที่สื่อของรัสเซียรายงานด้วยว่า รายละเอียดการสร้างและต่อเรือเพิร์ม มีความแตกต่างเล็กน้อยจากเรือดำน้ำรุ่นก่อนที่อยู่ในชั้นเดียวกัน ขณะที่ภารกิจในเมืองเมอร์มันส์ก ปูตินยังได้ตรวจเยี่ยมเรือดำน้ำ อาร์คันเกลส์ก ที่อยู่ในชั้นเดียวกับเรือดำน้ำเพิร์ม และ เข้าตรวจเยี่ยมงานของบริษัท อะตอมฟลอต ที่ดูแลโครงการ กองเรือตัดน้ำแข็ง ของรัสเซีย

จีน-สหภาพยุโรป เห็นพ้องกระชับร่วมมือ

ปักกิ่ง - เหอลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน เผยว่าจีนยินดีทำงานร่วมกับสหภาพยุโรป หรืออียู เพื่อเสริมสร้างการเจรจาและการแลกเปลี่ยน จัดการกับความแตกต่างทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างเหมาะสม ขยายการเปิดกว้างร่วมกัน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพของสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหภาพยุโรป เหอ ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวถ้อยคำข้างต้นขณะพบปะกับ มารอช เชฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่าปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาสายสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหภาพยุโรป โดยจีนพร้อมทำงานร่วมกับสหภาพยุโรปเพื่อดำเนินตามฉันทามติสำคัญที่บรรลุโดยผู้นำสองฝ่าย คัดค้านลัทธิฝ่ายเดียวและการกีดกันทางการค้า ตลอดจนปกป้องระบบการค้าพหุภาคี ด้านเชฟโควิชกล่าวว่าจีนเป็นหุ้นส่วนรายสำคัญของสหภาพยุโรป พร้อมแสดงความยินดีที่จะใช้วาระครบรอบ 50 ปีของสายสัมพันธ์ทางการทูตทวิภาคีเป็นโอกาสในการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหภาพยุโรปอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเห็นพ้องว่าควรจัดการความแตกต่างผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ

โครงการโซลาร์เซลล์ในลาว

เวียงจันทน์ - รัฐบาล สปป.ลาว จะร่วมมือกับพันธมิตรด้านการพัฒนาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในแขวงบอลิคำไซและเซกอง เพื่อกระตุ้นการผลิตพลังงานและสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งเกื้อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจท้องถิ่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการปกป้องสิ่งแวดล้อม สื่อท้องถิ่นลาวรายงานว่า โครงการดังกล่าวจะครอบคลุมพื้นที่ราว 25,000 ไร่ ในแขวงบอลิคำไซ และราว 10,300 ไร่ในแขวงเซกอง โดยจะมีการจัดตั้งทีมเทคนิคดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้อย่างครอบคลุม เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับชี้นำการพัฒนาโครงการและรับรองว่าจะมีมาตรฐานสูง โครงการนี้มุ่งดึงเอาศักยภาพของ สปป.ลาว ในฐานะแหล่งพลังงานหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่กับการค้นหาแนวทางการกักเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว