27 ก.ย. 2567 นสพ.The Witness ของแอฟริกาใต้ รายงานข่าว Viral pygmy hippo proves cash cow for Thai zoo ระบุว่า ที่ประเทศไทย ลูกฮิปโปแคระที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า “หมูเด้ง” สามารถสร้างรายได้อย่างมากให้กับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว สถานที่ที่มันอาศัยอยู่ จากการกลายเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ โดยโฆษกของสวนสัตว์เปิดเผยว่า ยอดขายบัตรเข้าชมตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. 25567 ถึงวันที่ 25 ก.ย. 2567 อยู่ที่เกือบ 19.2 ล้านบาท (590,000 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 4 เท่า

และเมื่อมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปเข้าชม ก็ทำให้ทางสวนสัตว์ต้องจัดคิวไว้รอบละไม่เกิน 5 นาที รวมถึงไลฟ์สดจากกรงของเจ้าหมูเด้งตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกจะเดินทางมาชมที่สวนสัตว์ และยังหวังว่ากระแสความนิยมจะกระตุ้นให้มีการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยได้เปิดตัวเสื้อยืดลายฮิปโปแคระเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปัจจุบันมีจำหน่ายเฉพาะที่สวนสัตว์เท่านั้น โดยราคา 300 บาท หรือตัวละ 9 เหรียญสหรัฐ ซึ่งรายได้จะถูกนำไปใช้เพื่อดูแลสวนสัตว์

แต่ทามกลางกระแส “หมูเด้งฟีเวอร์” ก็มีรายงานว่า องค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์อย่าง PETA ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ ระบุว่า ‘ไม่มีอะไรน่ารักสำหรับทารกที่เกิดในกรงขัง’ ขณะที่ข้อมูลจาก องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้ฮิปโปแคระซึ่งเป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันตก อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ และปัจจุบันเหลืออยู่ทั่วโลกเพียง 2,000-2,500 ตัว

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวตั้งชื่อหัวข้อว่า “PETA Statement on Moo Deng, the Baby Hippo Born in Captivity in Thailand” เผยแพร่บนเว็บไซต์ petaasia.com ขององค์กร PETA สาขาเอเชีย เนื้อหาระบุว่า การที่ลูกสัตว์เกิดมาในกรงขังไม่ใช่เรื่องน่ารักเลย ฮิปโปควรอยู่ในป่า แต่หมูเต็งไม่มีวันได้อยู่นอกกรง มันต้องเผชิญกับการถูกขังตลอดชีวิต ขาดอิสรภาพ และโอกาสที่จะได้สัมผัสกับที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและโครงสร้างทางสังคมของสายพันธุ์ของมัน

“สัตว์ไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิงของเรา การเพาะพันธุ์พวกมันเพื่อจัดแสดงต่อสาธารณะทำให้พวกมันต้องทนทุกข์ทรมาน PETA เรียกร้องให้ยุติวัฏจักรอันโหดร้ายนี้ และเรียกร้องให้สวนสัตว์ให้ความสำคัญกับความพยายามในการอนุรักษ์เพื่อปกป้องสัตว์ในธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ที่พวกมันควรอยู่จริงๆ PETA พร้อมและเต็มใจเสมอที่จะช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายสัตว์ไปยังเขตรักษาพันธุ์ และขอเรียกร้องให้ทุกคนหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ทำให้สัตว์มีชีวิตและรู้สึกเหมือนถูกกักขัง” แถลงการณ์ของ PETA ระบุ

ขอบคุณเรื่องจาก witness , petaasia