ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์

มะนิลา-พายุไต้ฝุ่นหม่านหยี่ ซึ่งเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง พัดขึ้นฝั่งทางเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ด้วยความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน โดยพายุอ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็กเมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอนในเช้าวันอาทิตย์ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและพายุรุนแรง ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของฟิลิปปินส์พยากรณ์ว่า เส้นทางพายุพัดวนอยู่ทางเหนือก่อนจะพัดข้ามเกาะลูซอนซึ่งรวมทั้งกรุงมะนิลา และจะพัดมุ่งหน้าออกนอกชายฝั่งเข้าสู่ทะเลภายในวันที่ 18 พ.ย. สำหรับอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นและโซนร้อน 5 ลูก ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ก่อนหน้านี้ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งพายุจ่ามี และกงเรย ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศ มีผู้เสียชีวิตรวม 162 ราย และยังสูญหาย 22 คน

รถยนต์นับแสนคันเสียหายจากน้ำท่วม

บาเลนเซีย-หอการค้าของภูมิภาคบาเลนเซียทางตะวันออกของสเปนประเมินว่า มีรถยนต์ 137,000 คัน ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายจากน้ำท่วมใหญ่ในภูมิภาคบาเลนเซียเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฉุกเฉิน ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อเก็บกวาดเศษซากความเสียหายต่างๆ ถนนหลายสายในหลายเมืองยังคงเต็มไปด้วยซากรถยนต์จำนวนมากที่ถูกจอดทิ้งระเกะระกะ พื้นที่ใกล้ที่พักอาศัยและลานจอดรถต่างๆ มีรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้เป็นเรื่องยากที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติเหมือนก่อนเกิดภัยพิบัติได้ โดยเฉพาะการเก็บกวาดซากรถยนต์ที่เสียหายนับแสนๆ คัน ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนและงบประมาณมหาศาล เช่นเดียวกับชาวบ้านอีกจำนวนมากในบาเลนเซีย ที่กำลังเผชิญกับผลพวงจากเหตุการณ์อุทกภัยที่สร้างความเสียหายร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี