6 ธ.ค. 2567 สำนักข่าว RTL Today ของลักเซมเบิร์ก รายงานข่าว Iceland authorises whale hunting until 2029 ระบุว่า ที่ประเทศไอซ์แลนด์ รัฐบาลได้ออกใบอนุญาตล่าวาฬให้กับ 2 บริษัท เป็นเวลา 5 ปี โดยการต่ออายุครั้งล่าสุดนี้จะทำให้สามารถล่าวาฬไปได้จนถึงปี 2572 แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภาคประชาสังคมที่รณรงค์ด้านสิทธิสัตว์และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยฤดูการล่าวาฬจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งผู้ถือใบอนุญาตจะสามารถจับวาฬฟิน (Fin Whale) ได้ 209 ตัว และวาฬมิงค์ (Minke Whale) 217 ตัว ต่อฤดู

ตามข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) วาฬฟินอยู่ในสถานะสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ใบอนุญาตล่าวาฬโดยปกติจะออกให้เป็นระยะเวลา 5 ปี และใบอนุญาตฉบับสุดท้ายเพิ่งหมดอายุในปี 2566 ส่วนเรือล่าปลาวาฬที่ยังใช้งานอยู่เพียงลำเดียวคือเรือ Hvalur ได้ยื่นขอและได้รับการต่ออายุใบอนุญาตทุกปี ขณะที่องค์กรการกุศลเพื่อการอนุรักษ์วาฬและโลมา (Whale and Dolphin Conservation) ประณามการออกใบอนุญาตดังกล่าวว่าเป็นเรื่องน่าขยะแขยง และการที่รัฐบาลที่มีสถานะเพียงรักษาการทำแบบนี้ก็ถือว่าไร้จริยธรรมอย่างยิ่ง

มูลนิธิ Captain Paul Watson มีมุมมองที่คล้ายคลึงกัน โดยกล่าวว่ารัฐบาลไอซ์แลนด์ใช้อำนาจในทางมิชอบอย่างน่าตกตะลึง ซึ่งปัจจุบัน พอล วัตสัน (Paul Watson) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ  ถูกทางการกรีนแลนด์ควบคุมตัว หลังจากถูกจับกุมในเดือน ก.ค. 2567 ที่เมืองนุก เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก โดยถูกควบคุมตัวตามหมายจับของญี่ปุ่นที่ออกในปี 2555 ซึ่งกล่าวหาว่าเขาสร้างความเสียหายให้กับเรือล่าวาฬในแอนตาร์กติกาเมื่อปี 2553 และทำให้นักล่าวาฬได้รับบาดเจ็บ

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า เมื่อปี 2566 ไอซ์แลนด์ได้ระงับการล่าวาฬเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากผลการสอบสวนของรัฐบาลสรุปว่าวิธีการที่ใช้ไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ โดยการติดตามตรวจสอบโดยหน่วยงานสัตวแพทย์ของรัฐบาลพบว่าการใช้ “ฉมวกติดระเบิด (Explosive Harpoon)” ของนักล่า ทำให้วาฬต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลานาน โดยการล่าสัตว์กินเวลานานถึง 5 ชั่วโมงหลังจากถูกฉมวกแทง

ฤดูกาลล่าปลาวาฬปี 2566 ที่สั้นลงซึ่งมีระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ สิ้นสุดลงด้วยการจับวาฬฟินได่ 24 ตัว จากโควตาที่ได้รับอนุญาตคือ 209 ตัว ขณะที่บริษัทแห่งหนึ่งได้ยุติการล่าวาฬอย่างถาวรในปี 2563 โดยให้เหตุผลว่าไม่ทำกำไรอีกต่อไป ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และญี่ปุ่น เป็นเพียง 3 ประเทศเท่านั้นที่อนุญาตให้ล่าวาฬเพื่อการค้า ซึ่งชาติเหล่านี้ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์

ขอบคุณเรื่องจาก

https://today.rtl.lu/news/science-and-environment/a/2256938.html