ดามัสกัส (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/อัลจาซีรา) - กลุ่มกบฏในซีเรียสามารถเข้ายึดเมืองฮอมส์ และปลดแอกกรุงดามัสกัส โค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ปกครองซีเรียมานาน 24 ปีได้แล้ว เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ขณะที่มีรายงานว่า อัล-อัสซาดและครอบครัวได้หนีออกนอกประเทศแล้ว
กลุ่มกบฏในซีเรียแถลงทางโทรทัศน์เมื่อช่วงสายวันที่ 8 ธ.ค. ว่า สามารถปลดแอกกรุงดามัสกัสและโค่นรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ปกครองซีเรียมานาน 24 ปีได้แล้ว ขณะที่ชาวซีเรียในกรุงดามัสกัส เปิดเพลงเฉลิมฉลองและปีนขึ้นไปบนรถถังที่ถูกจอดทิ้งไว้ เพื่อถ่ายภาพและส่งเสียงเชียร์ หลังกลุ่มกบฏนำโดยกองกำลัง ฮายัต ตาห์รีร์อัล-ชาม ประกาศเข้ายึดกรุงดามัสกัสได้แล้ว ชาวซีเรียบางคนยังขึ้นไปดึงรูปภาพ อัล-อัสซาด ที่ติดอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาล ดาร์ อัล-ชีฟา ในกรุงดามัสกัสออกด้วย เป็นการยืนยันว่า การปกครองซีเรียยาวนาน 24 ปีของ อัล-อัสซาด ได้จบลงแล้ว และปิดฉากการปกครองของตระกูล อัล-อัสซาด ที่ดำเนินมานาน 50 ปี นับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาดผู้เป็นบิดา โดยเจ้าหน้าที่กองทัพซีเรียเผยว่า ประธานาธิบดี อัล-อัสซาด และครอบครัวรวมถึงคณะผู้ติดตาม ได้ขึ้นเครื่องบินหนีออกจากกรุงดามัสกัสไปยังจุดหมายที่ไม่เป็นที่เปิดเผยแล้ว
ขณะเดียวกัน กองทัพซีเรียแถลงว่า กำลังเดินหน้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในเมืองฮามา เมืองฮอมส์ และเมืองดารา ที่กำลังมีการสู้รบกันอย่างหนัก ขอให้ประชาชนร่วมกันปกป้องสเถียรภาพและอธิปไตยของประเทศ เป็นการแถลงหลังจากกลุ่มกบฏแถลงทางสถานีโทรทัศน์ในวันเดียวกันว่า สามารถเข้ายึดเมืองฮอมส์ ที่เป็นเมืองสำคัญทางตอนกลางของซีเรียได้โดยสมบูรณ์แล้ว ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญอีกครั้ง เนื่องจากเมืองฮอมส์ ตั้งอยู่พื้นที่ที่เป็นทางแยกสำคัญระหว่างกรุงดากัสกับพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เท่ากับตัดขาดกรุงดามัสกัสออกจากเขตยึดครองของกลุ่มผู้สนับสนุน อัล-อัสซาด และตัดออกจากฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือของรัสเซีย ที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลซีเรีย
ทั้งนี้ กลุ่มกบฏซีเรียเดินหน้ารุกคืบอย่างรวดเร็ว ทั้งที่กลุ่มกบฏเพิ่งยึดเมืองอเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ทางตะวันตกเฉียงเหนือได้เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนการเข้ายึดกรุงดามัสกัสของกลุ่มกบฏ เป็นไปอย่างง่ายดายแทบไม่มีการตอบโต้กับทหารกองทัพรัฐบาลซีเรียเลย สะท้อนว่ากองทัพได้ถอนกำลังออกไปจนหมดก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีรายงานว่า ทหารซีเรียประมาณ 2,000 นาย ได้ข้ามพรมแดนเข้ามาในอิรักเพื่อหาที่หลบภัย โดยมีทหารอิรักควบคุมสถานการณ์อยู่ที่พรมแดน
ด้านนายกรัฐมนตรี โมฮัมหมัด อัล-จาลาลี ของซีเรีย ที่เพิ่งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซีเรียเมื่อวันที่ 14 กันยายนปีนี้ โพสต์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กว่า ซีเรียสามารถเป็นประเทศปกติที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลก แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้นำที่เลือกโดยประชาชนชาวซีเรีย เขาพร้อมให้ความร่วมมือกับผู้นำคนนั้นและอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่สามารถทำได้ นายกรัฐมนตรีจาลาลี วัย 55 ปี ยังให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ อัล-อาราบียา ของทางการซาอุดีอาระเบียว่า เขาอยู่ระหว่างติดต่อกับ อาบู โมฮัมเหม็ดอัล-โกลานี ผู้บัญชาการของกลุ่มกบฏ เพื่อหารือเรื่องการจัดการช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายอำนาจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี