สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นครนิวยอร์กกลายเป็นเมืองแรกของสหรัฐที่เริ่มบังคับใช้แผนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการจราจรคับคั่ง หวังแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด

องค์การขนส่งมหานครนิวยอร์กหรือเอ็มทีเอ (MTA) เริ่มบังคับใช้แผนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการจราจรคับคั่ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทางตอนล่างและตอนกลางของย่านแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก อันเป็นที่ตั้งของย่านไทม์สแควร์ ตึกเอ็มไพร์สเตท และตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มกราคม ส่งผลให้นิวยอร์กเป็นเมืองแรกของสหรัฐที่บังคับใช้แผนดังกล่าว เป็นการเก็บค่าธรรมเนียมกับยานยนต์ที่เข้าสู่เขตบรรเทาการจราจรคับคั่ง (Congestion Relief Zone – CRZ) อัตราค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับประเภทของยานยนต์ ช่วงเวลาของวัน การลดหย่อนค่าธรรมเนียม และวิธีการชำระเงินที่มีส่วนลดและข้อยกเว้นที่บังคับใช้กับผู้ขับขี่หรือยานยนต์บางประเภท

สำหรับผู้ขับขี่ยานยนต์ทั่วไปส่วนใหญ่ หากต้องการเข้าใช้เส้นทางชั้นในของนครนิวยอร์กช่วงชั่วโมงเร่งด่วน จะต้องเสียค่าธรรมเนียมวันละ 9 ดอลลาร์ (ประมาณ 310 บาท) ยานยนต์โดยสารและยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก รถบรรทุก รถบัส และจักรยานยนต์ที่เข้าสู่เขตบรรเทาการจราจรคับคั่งจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมวันละครั้ง ขณะที่ผู้โดยสารรถแท็กซี่และรถเช่าจะต้องจ่ายเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการเดินทางเข้าออกแต่ละครั้ง รวมถึงการเดินทางอยู่ภายในหรือการขับผ่านเขตดังกล่าว

องค์การขนส่งมหานครนิวยอร์กคาดว่า แผนกำหนดค่าธรรมเนียมนี้จะส่งผลให้จำนวนยานยนต์ที่เข้าสู่เขตบรรเทาการจราจรคับคั่งลดลงร้อยละ 10 และรถยนต์ที่วิ่งผ่านเขตดังกล่าวลดลงร้อยละ 5 อีกทั้งจะสามารถเพิ่มรายได้ปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 34,500 ล้านบาท) เพื่อนำมาใช้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนในนิวยอร์ก อย่างไรก็ดี แผนการนี้ถูกต่อต้านอย่างหนักจากชาวนิวยอร์กจำนวนมาก รวมถึงบรรดาผู้ขับขี่แท็กซี่ ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็น ‘นิวยอร์เกอร์’ ขนานแท้ ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ และประกาศจะยกเลิกทันทีที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในเดือนนี้