วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - ติ๊กต็อก แอปพลิเคชั่นแชร์วีดีโอสั้นยอดนิยมหยุดให้บริการในสหรัฐฯ ที่มีผู้ใช้งานในสหรัฐราว 170 ล้านคนแล้ว ในช่วงคืนวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. และถูกถอดออกจากแอปสโตร์และเพลย์สโตร์ ก่อนหน้าที่กฎหมายแบนติ๊กต็อกจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค.

ติ๊กต็อก ซึ่งเป็นของไบต์แดนซ์ บริษัทของจีน แจ้งบรรดาผู้ใช้งานที่ล็อกอินเข้ามาที่แอปนี้เมื่อเวลา 22.45 น. ของวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. หรือตรงกับ 07.45 น.วันอาทิตย์ตามเวลาในประเทศไทย พบข้อความว่า กฎหมายที่แบนติ๊กต็อกมีผลใช้บังคับในสหรัฐฯ น่าเสียดายว่า ผู้ใช้ในสหรัฐฯ จะไม่สามารถใช้งานติ๊กต็อกได้ในตอนนี้ แต่ยังมีเรื่องน่าดีใจ ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่า เขาจะทำงานร่วมกับติ๊กต็อกเพื่อหาทางออกในการนำติ๊กต็อกกลับมาใช้งานอีกครั้งเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว และขอให้อดใจรอ

นอกจากติ๊กต็อกแล้ว แอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่ไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อกเป็นเจ้าของ รวมถึงแอปตัดต่อวีดีโอแคปคัตแอปสังคมไลฟ์สไตล์ และเลมอน 8ก็ปิดให้บริการไปด้วย และไม่พบปรากฏในแอปสโตร์และเพลย์สโตร์ ตั้งแต่คืนวันเสาร์

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยออกมาระบุว่า เขาน่าจะให้ผ่อนผันให้เวลาติ๊กต็อก90 วัน หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันจันทร์ ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ แจ้งว่า การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับติ๊กต็อกจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลชุดใหม่ของทรัมป์ และยอมรับว่า ติ๊กต็อกควรยังคงเปิดให้บริการแก่ชาวอเมริกัน แต่ต้องเป็นภายใต้การควบคุมของเจ้าของอเมริกันหรือเจ้าของอื่นๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงแห่งชาติที่สภาคองเกรสได้ระบุในกฎหมายฉบับนี้ ที่เห็นว่าบริษัทแม่ของติ๊กต็อก อาจเป็นภัยคุกคามทางความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากรัฐบาลจีนอาจบังคับให้ติ๊กต็อกหรือบริษัทไบต์แดนซ์ ส่งมอบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ชาวอเมริกัน แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยกฎหมายที่จะทำให้ติ๊กต็อกถูกแบน ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 2 ฝ่ายของสภาคองเกรส โดยสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 360-58 เพื่ออนุมัติการแบน และการออกกฎหมายได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วในวุฒิสภา