หยุดสงครามซะ! ‘ทรัมป์’ขู่อัดมาตรการภาษีคว่ำบาตรเพิ่ม หาก‘รัสเซีย’ไม่ยุติสู้รบใน‘ยูเครน’

หยุดสงครามซะ! ‘ทรัมป์’ขู่อัดมาตรการภาษีคว่ำบาตรเพิ่ม หาก‘รัสเซีย’ไม่ยุติสู้รบใน‘ยูเครน’

วันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568, 19.00 น.

23 ม.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump threatens Russia, others with tariffs if Ukraine deal not reached ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568 ว่า ตนจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรใหม่เพิ่มเติมในคำขู่คว่ำบาตรรัสเซีย หากรัสเซียไม่บรรลุข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน และเสริมว่ามาตรการนี้ยังสามารถนำไปใช้กับประเทศที่เข้าร่วมอื่นๆ ได้ด้วย

ท่าทีล่าสุดของทรัมป์ เป็นการแก้ไขความคิดเห็นที่เคยแสดงเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2568 ว่าเขาอาจจะคว่ำบาตรรัสเซีย หากประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ปฏิเสธที่จะเจรจายุติความขัดแย้งที่ดำเนินมานานเกือบ 3 ปี โดยทรัมป์ กล่าวว่า หากไม่ทำข้อตกลง และในไม่ช้านี้ ตนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเก็บภาษี ภาษีศุลกากร และมาตรการคว่ำบาตรระดับสูงกับสินค้าใดๆ ที่รัสเซียขายให้กับสหรัฐฯ รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วม แต่ไมได้ระบุความหมายของประเทศที่ถือว่าเป็นผู้เข้าร่วมในความขัดแย้ง หรือให้คำจำกัดความของการมีส่วนร่วมว่าอย่างไร


รัฐบาลสหรัฐฯ ในยุคของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักกับบริษัทหลายพันแห่งในภาคการธนาคาร การป้องกันประเทศ การผลิต พลังงาน เทคโนโลยี และภาคส่วนอื่นๆ ของรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อเดือน ก.พ. 2565 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคนและเมืองต่างๆ กลายเป็นซากปรักหักพัง

ดมิทรี โปลยันสกี (Dmitry Polyanskiy) รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า รัสเซียจะต้องดูว่าทรัมป์มุมมองเกี่ยวกับข้อตกลงเพื่อยุติสงครามในยูเครนมีความหมายอย่างไร ซึ่งไม่ใช่แค่คำถามเรื่องการยุติสงครามเท่านั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือคำถามเรื่องการแก้ไขสาเหตุหลักของวิกฤตในยูเครน

ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2567 และทรัมป์ได้รับชัยชนะ เขาได้ประกาศหลายสิบครั้งว่าจะมีข้อตกลงระหว่างยูเครนและรัสเซียในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง หรืออาจจะก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ แต่ผู้ช่วยของทรัมป์ ยอมรับว่า ข้อตกลงเพื่อยุติสงครามอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือมากกว่านั้น

เมื่อต้นเดือน ม.ค. 2568 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาต่อรายได้ด้านพลังงานของรัสเซีย โดยกำหนดเป้าหมายไปที่บริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซ Gazprom Neft และ Surgutneftegas ตลอดจนเรือ 183 ลำที่เป็นส่วนหนึ่งของกองเรือบรรทุกน้ำมันที่เรียกว่า “เรือดำ” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อหลบเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้าอื่นๆ ในโลกตะวันตก

ทรัมป์พยายามใช้การข่มขู่เรื่องภาษีศุลกากรเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ไม่ใช่การค้า รวมถึงการข่มขู่เม็กซิโก แคนาดา และจีนด้วยภาษีศุลกากร เพื่อผลักดันให้พวกเขายุติการอพยพที่ผิดกฎหมาย และการไหลเข้าของสารโอปิออยด์เฟนทานิลอันร้ายแรงเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งทั้ง 3 ประเทศนี้เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันต่อปีมากกว่า 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนรัสเซียอยู่อันดับท้ายๆ ของรายชื่อ โดยการนำเข้าจากรัสเซียของสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 จาก 2.96 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2564

สหรัฐฯ นำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากรัสเซียมูลค่า 13,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2557 แต่ตัวเลขนี้ลดลงเหลือศูนย์หลังจากมีการคว่ำบาตรยูเครนที่เกี่ยวข้องกับสงคราม หมวดหมู่สินค้านำเข้าชั้นนำอื่นๆ เมื่อทศวรรษที่แล้ว เช่น เหล็กกล้ากึ่งสำเร็จรูปและเหล็กดิบ ก็ลดลงเหลือศูนย์เช่นกัน แต่สหรัฐฯ ยังคงนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซียจำนวนมากที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 รวมถึงยูเรเนียมสำหรับใช้พลังงานนิวเคลียร์และแพลเลเดียมและโรเดียมที่ใช้ในตัวเร่งปฏิกิริยาของยานยนต์ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ไบรท์บิลล์ (Tim Brightbill) ทนายความด้านการค้าจากสำนักงานกฎหมายไวลีย์ เรน ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ กล่าวว่า วิธีหนึ่งที่จะโจมตีรัสเซียอย่างรุนแรงได้ก็คือการคว่ำบาตรและหยุดการใช้ไม้จากรัสเซียในผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูปที่นำเข้าจากจีน เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ส่วนประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วม มีตัวอย่างจากรัฐบาลอดีต ปธน. ไบเดน ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อหน่วยงานในเกาหลีเหนือและอิหร่านสำหรับการจัดหาอาวุธให้กับรัสเซีย และต่อหน่วยงานของจีนที่จัดหาส่วนประกอบและสินค้าอื่นๆ ที่รัสเซียใช้ในสงคราม

“ผมจะสนับสนุนรัสเซียซึ่งเศรษฐกิจกำลังตกต่ำและประธานาธิบดีปูตินเป็นอย่างมาก ตกลงกันตอนนี้และหยุดสงครามไร้สาระนี้ซะ” ทรัมป์ กล่าว

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า จุดยืนในการเจรจาระหว่าง 2 ฝ่ายที่ขัดแย้งกันยังคงห่างไกล และชาวอูเครนบางส่วนกลัวว่าพวกเขาจะถูกบังคับให้ยอมประนีประนอมครั้งใหญ่หลังจากการต่อสู้ที่โหดร้ายเป็นเวลานานสามปี ซึ่งความขัดแย้งได้พัฒนาเป็นสงครามบั่นทอนซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวรบทางตะวันออกของยูเครน โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทั้งสองฝ่าย

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/world/trump-threatens-russia-others-with-sanctions-if-ukraine-deal-not-reached-2025-01-22/

043...

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top