วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
ซิงซิงเอฟเฟค! สื่อโสมขาวเผยชาวจีนผวาแก๊งคอลฯลักพาตัว หนีจากไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น

ซิงซิงเอฟเฟค! สื่อโสมขาวเผยชาวจีนผวาแก๊งคอลฯลักพาตัว หนีจากไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น

วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 18.35 น.
Tag : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซิงซิง ตัดไฟแก๊งคอล เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวไทย นักท่องเที่ยวจีน หวังซิง
  •  

24 ก.พ. 2568 นสพ. Korea JoongAng Daily ของเกาหลีใต้ รายงานข่าว Thailand's tourism targets dip as Chinese travelers opt for trips to Japan อ้างผลการวิจัยของ Bloomberg Intelligence ซึ่งพบว่า อัตราการยกเลิกเที่ยวบินของชาวจีนในการเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อเดือน ม.ค. 2568 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 94 ขณะที่การเดินทางไปเที่ยวเมืองไทยในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน ก.พ. 2568 ยังคงต่ำกว่าระดับเดียวกันของปีก่อนหน้า

เป้าหมายอันทะเยอทะยานของไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีนให้ได้มากถึง 9 ล้านคนในปี 2568 ดูจะคลุมเครือ เนื่องจากเกิดกรณีการลักพาตัว หวังซิง (Wang Xing หรือ “ซิงซิง”) นักแสดงหนุ่มชาวจีน ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ส่งผลให้ชาวจีนย้ายสถานที่พักผ่อนไปยังญี่ปุ่นหรือสิงคโปร์แทน ดังที่ในช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ชาวจีนจำนวนมากเลือกที่จะพาครอบครัวไปเที่ยวลานสกีและบ่อน้ำพุร้อนในญี่ปุ่น


ข่าวดาราดังแดนมังกร ถูกพาตัวจากไทยข้ามชายแดนไปยังเมียนมาก่อนได้รับการช่วยเหลือในภายหลัง ซึ่งแม้ทางการไทยจะเปิดปฏิบัติการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านนำพาคนที่ถูกล่อลวงเข้ามาข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้วบังคับให้ทำงานหลอกลวงทางโทรคมนาคม หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ ณ ปัจจุบัน ดินแดนแห่งนี้ที่มีภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยังไม่มีการบรรเทาความกลัวของนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด

เอริค จู (Eric Zhu) นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence กล่าวว่า ความกังวลด้านความปลอดภัยมีน้ำหนักมากพอสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะทำให้พวกเขาคิดทบทวนอีกครั้งก่อนจะเดินทางไปเยือนประเทศไทย ข่าวร้ายมีมากขึ้นกว่ามาตรการด้านความปลอดภัยที่ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งจะทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน การจองตั๋วเครื่องบินจากจีนไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงและค่าโดยสารจากเซี่ยงไฮ้ไปโตเกียวที่ต่ำถึง 150 เหรียญสหรัฐ (ราว 5,100 บาท) ทำให้ญี่ปุ่นแซงหน้าไทยขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงวันหยุดยาว 8 วันของเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 นอกจากนี้ การเข้าประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียโดยไม่ต้องมีวีซ่ายังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้เบนเข็มออกจากไทยอีกด้วย

ในเดือน ม.ค. 2568 ญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียวดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนได้มากถึง 980,000 คน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากปีก่อนหน้า ตามข้อมูลขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติญี่ปุ่น ในขณะที่ประเทศไทยระบุว่า นับตั้งแต่ล่วงเข้าสู่ปี 2568 เป็นต้นมา จนถึง ณ วันที่ 2 ก.พ. 2568 มีชาวจีนเกือบ 711,000 คนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยว

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ทางการไทยใช้มาตรการะงับการจ่ายกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิงและสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพื่อไม่ให้ฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในเมียนมาได้นำไปใช้ประโยชน์ ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว ทำให้มีชาวต่างชาตินับพันคน รวมถึงชาวจีนหลายร้อยคนที่อยู่ในฐานปฏิบัติการมิจฉาชีพเหล่านั้นถูกปล่อยตัวออกมา

อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูว่ามาตรการปราบปรามดังกล่าวจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นแหล่งที่มาของรายรับจากต่างประเทศรายใหญ่ในเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวของไทยกลับมาได้หรือไม่ โดยคาดการณ์ว่าภาคการท่องเที่ยวซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และ 1 ใน 5 ของการจ้างงานทั้งหมดจะสร้างรายได้ประมาณ 55,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.87 ล้านล้านบาท) ในปี 2568

จู มองว่า มีแนวโน้มน้อยมากที่ประเทศไทยจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้ได้ตามเป้าหมายสูงสุด และจะประสบปัญหาในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้เกิน 8.8 ล้านคนที่คาดการณ์ไว้ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนได้อย่างรวดเร็วภายในสิ้นไตรมาสแรกของปี 2568 และหากปัญหายังคงมีอยู่จนถึงผ่านพ้นปี 2568 ไปแล้ว ไทยก็อาจประสบปัญหาในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้ได้มากกว่า 7.5 ล้านคน

ข้อมูลของบริษัทการตลาด China Trading Desk ซึ่งติดตามตลาดการท่องเที่ยวในแผ่นดินใหญ่ พบว่า มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าความกังวลเริ่มคลี่คลายลง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าแนวโน้มจะดีขึ้น ในขณะที่การจองตั๋วเครื่องบินจากจีนมายังประเทศไทยในเดือน มี.ค. 2568 ยังคงลดลงประมาณร้อยละ 10 เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ แต่ความต้องการเที่ยวบินในเดือน เม.ย. – พ.ค. 2568 กลับเติบโตขึ้นมากกว่าร้อยละ 3

สุพราหมณีย ภัทท์ (Subramania Bhatt) ซีอีโอของ China Trading Desk กล่าวว่า แม้ความกลัวต่อการเดินทางไปประเทศไทยจะลดลงแล้ว แต่ไทยยังห่างไกลจากจุดสูงสุดเมื่อปี 2562 อยู่มาก ขณะที่ทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์มีการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ (Thienprasit Chaiyapatranun) นายกสมาคมโรงแรมไทย ให้ความเห็นว่า นอกเหนือจากการจัดการฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลและผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้มากกว่าจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างเมืองหลวงเช่นกรุงเทพฯ ชายหาดที่ภูเก็ต และป่าในเชียงใหม่

“แม้แต่คนไทยก็ยังชอบไปญี่ปุ่นมากกว่าไปภูเก็ต เราสูญเสียนักท่องเที่ยวคุณภาพดีที่หันไปใช้การแลกเปลี่ยนเงินตรา เราจำเป็นต้องทำมากกว่านี้เพื่อเสนอจุดหมายปลายทางเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว” นายกสมาคมโรงแรมไทย ระบุ

ขอบคุณเรื่องจาก

https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2025-02-24/world/Thailands-tourism-targets-dip-as-Chinese-travelers-opt-for-trips-to-Japan/2248677

043...

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ยูเอ็น’ยังกังวล! รายงานชี้‘กัมพูชา’หลายเมืองกลายเป็นแหล่งซ่องสุม\'โจรออนไลน์\' ‘ยูเอ็น’ยังกังวล! รายงานชี้‘กัมพูชา’หลายเมืองกลายเป็นแหล่งซ่องสุม'โจรออนไลน์'
  • ปลอดภัยแต่ก็มีข้อควรระวัง! เปิดคู่มือ‘สหรัฐฯ’แนะนำพลเมืองเดินทางไปเที่ยวเมืองไทย ปลอดภัยแต่ก็มีข้อควรระวัง! เปิดคู่มือ‘สหรัฐฯ’แนะนำพลเมืองเดินทางไปเที่ยวเมืองไทย
  • ระวังแค่ชายแดนใต้! ‘สหรัฐฯ’ชี้ภาพรวม‘ไทย’ปลอดภัยสูงสุดสำหรับนักท่องเที่ยว ระวังแค่ชายแดนใต้! ‘สหรัฐฯ’ชี้ภาพรวม‘ไทย’ปลอดภัยสูงสุดสำหรับนักท่องเที่ยว
  • นครแห่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์! สื่อนอกตีข่าวงานวิจัยชี้‘กัมพูชา’แหล่งใหญ่ฐานปฏิบัติการหลอกลวง นครแห่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์! สื่อนอกตีข่าวงานวิจัยชี้‘กัมพูชา’แหล่งใหญ่ฐานปฏิบัติการหลอกลวง
  • ‘กัมพูชา’เผย4เดือนแรกปี’68 ยอดนักท่องเที่ยว‘จีน’เข้าชม‘นครวัด’เพิ่มขึ้นอย่างมาก ‘กัมพูชา’เผย4เดือนแรกปี’68 ยอดนักท่องเที่ยว‘จีน’เข้าชม‘นครวัด’เพิ่มขึ้นอย่างมาก
  • ‘สหรัฐฯ’ขึ้นบัญชีดำ‘หม่องชิตตู’พร้อมลูกอีก2คน ฐานสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ‘สหรัฐฯ’ขึ้นบัญชีดำ‘หม่องชิตตู’พร้อมลูกอีก2คน ฐานสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  •  

Breaking News

(คลิป) ลากไส้! กบฎ คนขายชาติ!! 'อุ๊งอิ๊งค์' พวกเดียว 'ฮุนเซน' ซัด! แม่ทัพภาค2 คือฝ่ายตรงข้าม

‘ฮุน เซน’ล่มเรือ‘อิ๊งค์’ ปมคลิปเสียงนายกฯ‘ลาออก-ยุบสภา’พอไหม

เสียเหลี่ยม‘กัมพูชา’ ‘จตุพร’ชี้กึ๋น‘อิ๊งค์’คนละชั้นกับ‘พ่อ-ลูกตระกูลฮุน’

ลาก่อนครับนาย!! 'อนุทิน'รับเก็บของห้องทำงาน'มหาดไทย-ทำเนียบฯ'แล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved