วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
ซิงซิงเอฟเฟกต์! บริษัท‘จีน’ลดเกรดความน่าเชื่อถือ‘ไทย’ อ้างปัญหาอาชญากรรมข้ามพรมแดน

ซิงซิงเอฟเฟกต์! บริษัท‘จีน’ลดเกรดความน่าเชื่อถือ‘ไทย’ อ้างปัญหาอาชญากรรมข้ามพรมแดน

วันพฤหัสบดี ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2568, 19.07 น.
Tag : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เครดิต ซิงซิง บริษัทจีน ลดเกรดไทย หวังซิง
  •  

6 มี.ค. 2568 นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานข่าว Chinese credit ratings firm downgrades Thailand over crime scandals and economic prospects ระบุว่า ไชนา เฉิงซิน (China Chengxin) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่งของจีน ได้ลดระดับ “ความน่าเชื่อถือ (Credit)” ของประเทศไทยจาก A- เป็น BBB+ หลังจากเกิดเหตุการณ์อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่เป็นข่าวโด่งดังหลายครั้ง

การที่ระดับลดลง หมายความว่าความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของไทยได้รับการจัดประเภทเป็น “ปานกลาง (Normal)” แทนที่จะเป็น "ต่ำ (Low)" ในขณะที่สถานะทางเศรษฐกิจและการเงินของไทยได้รับการจัดอันดับเป็น “ปกติ (Fine)” แทนที่จะเป็น “แข็งแกร่ง (Strong)”


“เหตุอาชญากรรมข้ามพรมแดนได้เผยให้เห็นข้อบกพร่องระยะยาวของรัฐบาลไทยในด้านการกำกับดูแล หากวิกฤติด้านความปลอดภัยยังคงดำเนินต่อไป อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อแนวโน้มของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ” บริษัทจัดอันดับเครดิตดังกล่าว ซึ่ง มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody's Ratings) บริษัทจัดอันดับสัญชาติสหรัฐฯ ร่วมถือหุ้นส่วนน้อยอยู่ด้วย ระบุ

ในปี 2567 ที่ผ่านมา ชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดของไทย โดยมีพลเมืองจีนประมาณ 6.7 ล้านคนเดินทางไปเยือนประเทศไทย กระทั่งในเดือน ม.ค. 2568 เมื่อ หวังซิง (Wang Xing หรือ "ซิงซิง") นักแสดงหนุ่มชาวจีน เดินทางมาประเทศไทยแล้วถูกขบวนการค้ามนุษย์ลักพาตัว ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวจีนเสียหาย ข่าวดังกล่าวถูกแชร์อย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ ก่อนจะถึงช่วงหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีนที่ผู้คนนิยมเดินทางท่องเที่ยว

ตามข้อมูลของ China Trading Desk  บริษัทการตลาดการเดินทางและเทคโนโลยี การจองทัวร์วันหยุดในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงวันที่ 13-20 ม.ค. 2568 ลดลงร้อยละ 15.6 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า เหตุการณ์ดังกล่าวยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนชาวจีนบางส่วนที่กำลังพิจารณาขยายธุรกิจมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร (Paetongtarn Shinawatra) นายกรัฐมนตรีของไทย ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางดังกล่าว โดยให้คำมั่นว่าจะปราบปรามอาชญากรรม มีการเดินทางไปเยือนจีน และเผยแพร่คลิปวิดีโอที่สร้างด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อกระตุ้นให้ชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทย

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า การปรับลดความน่าเชื่อถือของประเทศไทยของไชนา เฉิงซิน ยังเกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับแรงกดดันเชิงโครงสร้างที่ผู้ส่งออกและภาคการผลิตของไทยต้องเผชิญ ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ยังมองว่า นโยบายกำแพงภาษีสินค้านำเข้า ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นำมาใช้ อาจยิ่งซ้ำเติมหนักขึ้น ซึ่งปัจจุบันจีนถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไปแล้วในอัตราร้อยละ 20 และทรัมป์น่าจะใช้มาตรการเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ที่ค้าขายกับสหรัฐฯ แล้วได้ดุลการค้า

ในปี 2567 ประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ในอาเซียน มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ 45,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดผลผลิตภาคอุตสาหกรรม หดตัวร้อยละ 1.79 เปอร์เซ็นต์ ในปีดังกล่าว โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการหดตัวของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์

หากมองในปี 2568 เนื่องจากสหรัฐฯ มีแผนที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูง หากมีการบังคับใช้นโยบายภาษีนำเข้าที่เกี่ยวข้องและกลายเป็นแนวโน้มระยะยาว อาจทำให้การส่งออกของไทยมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นและจำกัดการไหลเข้าของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ นอกจาก ปัจจัยทางการเมืองอย่างการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังทำให้นโยบายดำเนินการอย่างไม่ต่อเนื่อง

ซ่ง เซิง วุน (Song Seng Wun) ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของบริษัทให้บริการทางการเงิน CGS ซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า การจัดอันดับล่าสุดโดยบริษัทสัญชาติจีนอย่างเฉิงซิน สำหรับประเทศไทยนั้นใกล้เคียงกับการจัดอันดับที่บริษัทอื่นๆ มอบหมายให้ แต่การจัดอันดับอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทย “ยังมีเสถียรภาพ (Stable)” และผลลัพธ์สุดท้ายคือ แนวโน้มของประเทศไทยยัง “ใช้ได้ (OK)"

รายงานของสื่อฮ่องกงยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 3 มี.ค. 2568 ไชนา เฉิงซิน ได้ลดระดับความน่าเชือ่ถือของเยอรมนีลงหนึ่งขั้นเป็น AA+ โดยอ้างถึงผลกระทบของสงครามในยูเครนและความท้าทายที่อุตสาหกรรมหลักหลายภาคส่วนต้องเผชิญ

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3301316/chinese-credit-ratings-firm-downgrades-thailand-over-crime-scandals-and-economic-prospects

043...

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ยูเอ็น’ยังกังวล! รายงานชี้‘กัมพูชา’หลายเมืองกลายเป็นแหล่งซ่องสุม\'โจรออนไลน์\' ‘ยูเอ็น’ยังกังวล! รายงานชี้‘กัมพูชา’หลายเมืองกลายเป็นแหล่งซ่องสุม'โจรออนไลน์'
  • นครแห่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์! สื่อนอกตีข่าวงานวิจัยชี้‘กัมพูชา’แหล่งใหญ่ฐานปฏิบัติการหลอกลวง นครแห่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์! สื่อนอกตีข่าวงานวิจัยชี้‘กัมพูชา’แหล่งใหญ่ฐานปฏิบัติการหลอกลวง
  • ‘สหรัฐฯ’ขึ้นบัญชีดำ‘หม่องชิตตู’พร้อมลูกอีก2คน ฐานสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ‘สหรัฐฯ’ขึ้นบัญชีดำ‘หม่องชิตตู’พร้อมลูกอีก2คน ฐานสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • ‘อินโดฯ’เตือนปชช.ระวังหางานทำใน‘ไทย-เมียนมา-กัมพูชา’ หวั่นถูกหลอกบังคับเป็นแก๊งคอลฯ ‘อินโดฯ’เตือนปชช.ระวังหางานทำใน‘ไทย-เมียนมา-กัมพูชา’ หวั่นถูกหลอกบังคับเป็นแก๊งคอลฯ
  • บทวิเคราะห์จากสื่อสิงคโปร์! \'แก๊งคอลเซ็นเตอร์\'ไม่สิ้นซากหากโลกไม่ร่วมปราบ บทวิเคราะห์จากสื่อสิงคโปร์! 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์'ไม่สิ้นซากหากโลกไม่ร่วมปราบ
  • บทเรียนจากเมียวดี! สื่ออินโดฯจี้‘อาเซียน’ต้องเอาจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บทเรียนจากเมียวดี! สื่ออินโดฯจี้‘อาเซียน’ต้องเอาจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  •  

Breaking News

ลาก่อนครับนาย!! 'อนุทิน'รับเก็บของห้องทำงาน'มหาดไทย-ทำเนียบฯ'แล้ว

‘อนุทิน’โยนถาม‘นายกฯ’ ต้อง‘ยุบสภา’รับผิดผิดชอบคลิปเสียงหรือไม่

ลาออกกี่โมง! ‘อดีตกกต.’จี้ถามความรับผิดชอบ หลังคลิปเสียง‘นายกฯ-ฮุนเซน’หลุด

คำต่อคำ! 'นายกฯอิ๊งค์' คุย 'ฮุน เซน' พูดชัด 'แม่ทัพภาค 2' อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา แค่อยากดูเท่

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved