วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
‘ทรัมป์’เปิดมหกรรม‘เลิกจ้างใหญ่’จนท.รัฐ ‘ศึกษาธิการ’คนหายเกือบครึ่ง-จ่อถึงยุบกระทรวง

‘ทรัมป์’เปิดมหกรรม‘เลิกจ้างใหญ่’จนท.รัฐ ‘ศึกษาธิการ’คนหายเกือบครึ่ง-จ่อถึงยุบกระทรวง

วันพุธ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568, 20.42 น.
Tag : กระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่รัฐ ทรัมป์ เลิกจ้าง ศธ สหรัฐอเมริกา
  •  

12 มี.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว US Education Department to cut half its staff as Trump eyes its elimination ระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2568 ถึงแผนการเลิกจ้างบุคลากรถึงเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังนำไปสู่การยุบกระทรวงดังกล่าวในท้ายที่สุด เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ กำลังเร่งดำเนินการให้ทันกำหนดเวลาที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำหนดในการส่งแผนการลดจำนวนบุคลากรจำนวนมากในระยะที่ 2

ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของกระทรวงฯ ระบุว่า การเลิกจ้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจสุดท้ายของกระทรวงฯ ซึ่งสื่อถึงคำมั่นของทรัมป์ที่จะยุบหน่วยงานนี้ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มูลค่า 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ บังคับใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชนในโรงเรียน และจัดหาเงินทุนของรัฐบาลกลางให้แก่เขตการศึกษาที่ขัดสน


รอยเตอร์อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ ลินดา แม็คมาฮฮน (Linda McMahon) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ตอบคำถามสำนักข่าว Fox News ว่า การเลิกจ้างบุคลากรจะส่งผลให้กระทรวงต้องยุบเลิก และเสริมด้วยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นคำสั่งของประธานาธิบดี การเลิกจ้างนี้จะทำให้กระทรวงเหลือเจ้าหน้าที่ 2,183 คน ลดลงจาก 4,133 คน ในเดือน ม.ค. 2568 ที่ทรัมป์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ขณะที่ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ รายงานว่าได้เห็นประกาศภายในของกระทรวงฯ ปิดทำการสำนักงานในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 11 – วันที่ 12 มี.ค. 2568 แต่โฆษก ศธ. ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับลักษณะของปัญหาความปลอดภัยที่นำไปสู่การปิดสำนักงานในทันที

ในแผนการลดขนาดภาครัฐ ทรัมป์ได้มอบหมายให้มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกอย่าง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) บัญชาการหน่วยกำกับประสิทธิภาพภาครัฐ (DOGE) เข้าไปตรวจสอบหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลาง ซึ่งนำไปสู่การเลิกจ้างบุคลากรภาครัฐฝ่ายพลเรือนแล้วมากกว่า 1 หมื่นคน จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน นอกจากนั้นยังระงับความช่วยเหลือต่างประเทศส่วนใหญ่ และยกเลิกโครงการและสัญญาหลายพันโครงการ แม้จะต้องเผชิญกับการถูกฟ้องหลายสิบคดีที่ผู้ฟ้องมองว่าทรัมป์และคณะทำงานกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ตาม

แนวทางการใช้กำลังอย่างโจ่งแจ้งของ DOGE ทำให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกัน ต้นสังกัดเดียวกับทรัมป์หลายคนผิดหวัง และบางคนได้เผชิญหน้ากับประชาชนที่โกรธแค้นในศาลากลางเมือง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บอกกับผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ว่าพวกเขาไม่ใช่มัสก์ ที่มีสิทธิ์ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการจัดหาบุคลากร ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวต่อสาธารณะครั้งแรกที่โดดเด่นของเขาเพื่อ “ซื้อใจ (Restrain)” ซีอีโอของ Tesla

หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งหมดได้รับคำสั่งให้จัดทำแผนการเลิกจ้างครั้งใหญ่ภายในวันที่ 13 มี.ค. 2568 เพื่อเตรียมการสำหรับขั้นตอนต่อไปของนโยบายลดต้นทุนของทรัมป์ หน่วยงานหลายแห่งเสนอเงินให้พนักงานเกษียณอายุก่อนกำหนดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้นำสหรัฐฯ ในส่วนของ ศธ. นั้น บุคลากรที่ได้รับผลกระทบจะถูกพักงานตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป

สหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของบุคลากร ศธ. สหรัฐฯ มากกว่า 2,800 คน ประกาศจะต่อสู้กับการตัดลดค่าใช้จ่ายอย่างรุนแรงนี้ โดย เชอเรีย สมิธ (Sheria Smith) ประธานสหพันธ์พนักงานรัฐบาลอเมริกัน สาขา 252 กล่าวว่า สิ่งที่ชัดเจนจากการเลิกจ้างจำนวนมาก ความวุ่นวาย และการขาดความเป็นมืออาชีพที่ไม่ได้รับการตรวจสอบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ ระบอบการปกครองนี้ไม่เคารพพนักงานหลายพันคนที่อุทิศอาชีพของตนเพื่อรับใช้เพื่อนร่วมชาติชาวอเมริกัน

ทรัมป์และมัสก์กล่าวอ้างว่า ภาครัฐของสหรัฐฯ มีสภาพเทอะทะและใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลือง และ DOGE อ้างว่าสามารถประหยัดเงินได้ 105,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากการตัดงบประมาณ แต่ได้บันทึกข้อมูลการประหยัดดังกล่าวต่อสาธารณะเพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น และการบัญชีของบริษัทก็เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด ขณะที่รัฐบาลกลางรายงานการจ่ายเงินที่ไม่เหมาะสมประมาณ 162,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 2567 ตามรายงานประจำปีของสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2568 รายงานดังกล่าวระบุว่าส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเงินเกิน โดยค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางทั้งหมดสูงถึง 6.75 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณนั้น ตามรายงานของสำนักงานงบประมาณรัฐสภา

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า หน่วยงานอื่นๆ ได้เสนอเงินก้อนสูงสุด 25,000 เหรียญสหรัฐก่อนหักภาษีแก่บุคลากรที่สมัครใจลาออกจากงาน ซึ่งในจำนวนนี้ ได้แก่ สำนักงานบริหารงานบุคคล สำนักงานประกันสังคม กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ รวมถึงองค์การอาหารและยา (อย.) ของสหรัฐฯ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลจากหน่วยงานของรัฐบาลกลางหลายแห่งกล่าวว่า ข้อเสนอลาออกโดยสมัครใจ ซึ่งรวมกับโปรแกรมอื่นที่ผ่อนปรนข้อกำหนดคุณสมบัติสำหรับการเกษียณอายุก่อนกำหนด ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากในการช่วยให้บรรลุเป้าหมาย

รัฐบาลของทรัมป์กำลังเผชิญกับคดีความมากมาย หลังจากที่ได้ไล่เลิกจ้างบุคลากรในกลุ่มพนักงานทดลองงานออกไปหลายพันคนในระยะแรกของแผนการเลิกจ้างจำนวนมาก โดยเฉพาะบางหน่วยงาน เช่น หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID)  และ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงิน (CFPB) ซึ่งบุคลากรถูกเลิกจ้างเกือบทั้งหมด

สำนักงานบริการทั่วไป (GSA) ซึ่งจัดการพอร์ตโฟลิโอทรัพย์สินของรัฐบาล กำลังพยายามขออนุมัติเพื่อเสนอเงินสมัครใจลาออกแก่บุคลากรเช่นกัน ตามอีเมลที่ส่งโดยหัวหน้ารักษาการฝ่ายเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2568 อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวไม่สามารถติดต่อ GSA เพื่อขอความเห็นนอกเวลาทำการของสหรัฐฯ ได้ เช่นเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สหรัฐฯ ได้เสนอโบนัสสูงถึง 50,000 เหรียญสหรัฐฯ

ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลและธรรมาภิบาลของรัฐกล่าวว่า โครงการสมัครใจลาออกดังกล่าวมีความน่าสนใจตรงที่เป็นไปโดยสมัครใจและมีความเสี่ยงต่อการฟ้องร้องทางกฎหมายน้อยกว่า นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังกำหนดให้ผู้ที่ยอมรับข้อเสนอต้องคืนเงินหากไปทำงานในหน่วยงานอื่นของภาครัฐ ภายในระยะเวลา 5 ปีแรกนับจากยอมรับข้อเสนอ ดังที่ ดอน มอยนิฮาน (Don Moynihan) ศาสตราจารย์ด้านนโยบายสาธารณะแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน กล่าวว่า หากกลยุทธ์คือการให้พนักงานออกจากงานโดยสมัครใจมากที่สุด นั่นจะช่วยลดความเสี่ยงจากคำสั่งศาลและการคัดค้านในระยะยาว

มีเพียงไม่กี่หน่วยงานเท่านั้นที่แจ้งว่ามีแผนจะเลิกจ้างพนักงานกี่คนในช่วงที่สองของการเลิกจ้าง ได้แก่ กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก ซึ่งมีเป้าหมายจะเลิกจ้างบุคลากรมากกว่า 80,000 คน และ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ซึ่งมีแผนจะเลิกจ้างบุคลากร 1,029 คน และแม้จะใกล้ถึงกำหนดเส้นตายแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดส่งแผนการเลิกจ้างไปยังสำนักงานบริหารทรัพยากรบุคคลของรัฐบาล (OPM) ที่รวบรวมข้อมูล ขณะที่ OPM ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว ในส่วนของ OPM เองก็ได้เสนอเงินก้อนให้กับบุคลากรประมาณ 650 คน โดยมีเวลาตอบกลับจนถึงวันที่ 12 มี.ค. 2568 ขณะที่เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2568 อย. สหรัฐฯ ได้ส่งอีเมลถึงบุคลากรทั้งหมด 19,000 คน เพื่อแจ้งกำหนดเส้นตายสำหรับโครงการสมัครใจลาออกในวันที่ 14 มี.ค. 2568 โดยผู้ที่ยอมรับจะถูกเลิกจ้างภายในวันที่ 19 เม.ย. 2568 ส่วนกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ ในช่วงดึกของวันที่ 10 มี.ค. 2568 ได้เพิ่มข้อเสนอโดยเพิ่มเงินเดือนเต็มจำนวน 2 เดือนนอกเหนือจากโบนัส ให้กับผู้สมัครใจลาออก

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/us-agencies-offer-staff-new-buyouts-ahead-trumps-layoff-deadline-2025-03-11/

043...

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ปธน.ทรัมป์\'ฮึ่ม! เตรียมถล่ม\'อิหร่าน\'เร็วๆนี้ เมินขอความเห็นชอบจาก\'สภาคองเกรส\' 'ปธน.ทรัมป์'ฮึ่ม! เตรียมถล่ม'อิหร่าน'เร็วๆนี้ เมินขอความเห็นชอบจาก'สภาคองเกรส'
  • อยากเรียนต่อ‘สหรัฐฯ’ระวังการใช้โซเชียล นโยบายใหม่เข้มตรวจหา‘ทัศนคติไม่พึงประสงค์’ อยากเรียนต่อ‘สหรัฐฯ’ระวังการใช้โซเชียล นโยบายใหม่เข้มตรวจหา‘ทัศนคติไม่พึงประสงค์’
  • \'ทรัมป์\'เตือนชาวเตหะรานอพยพทันที หลังเพลิงสงครามตะวันออกกลางปะทุหนัก 'ทรัมป์'เตือนชาวเตหะรานอพยพทันที หลังเพลิงสงครามตะวันออกกลางปะทุหนัก
  • ปลอดภัยแต่ก็มีข้อควรระวัง! เปิดคู่มือ‘สหรัฐฯ’แนะนำพลเมืองเดินทางไปเที่ยวเมืองไทย ปลอดภัยแต่ก็มีข้อควรระวัง! เปิดคู่มือ‘สหรัฐฯ’แนะนำพลเมืองเดินทางไปเที่ยวเมืองไทย
  • ระวังแค่ชายแดนใต้! ‘สหรัฐฯ’ชี้ภาพรวม‘ไทย’ปลอดภัยสูงสุดสำหรับนักท่องเที่ยว ระวังแค่ชายแดนใต้! ‘สหรัฐฯ’ชี้ภาพรวม‘ไทย’ปลอดภัยสูงสุดสำหรับนักท่องเที่ยว
  • \'ทรัมป์\'ฮึ่ม! เตือน\'อิสราเอล\'หยุดแผนการลอบสังหาร\'ผู้นำสูงสุดอิหร่าน\' ชี้โลกอาจลุกเป็นไฟ 'ทรัมป์'ฮึ่ม! เตือน'อิสราเอล'หยุดแผนการลอบสังหาร'ผู้นำสูงสุดอิหร่าน' ชี้โลกอาจลุกเป็นไฟ
  •  

Breaking News

ตร.สอบสวนกลางรวบเครือข่ายยาเสพติดคาเชียงรายขนยาบ้าเกือบ 8 แสนเม็ดจากหนองคาย

รองเท้าผ้าใบกับใจรักชาติ!‘พุทธิพงษ์’ขยี้‘อิ๊งค์’ เมื่อผู้นำคิดเองไม่ได้ ปลุกปชช.ปกป้องแผ่นดิน

(คลิป) 'ปานเทพ'ฟันฉับ! เคสคลิปเสียง'นายกฯ-ฮุนเซน'เข้าข่ายภัยความมั่นคงต่อชาติ

‘ไผ่ ลิกค์’โวสนั่นเสียงรัฐบาลอาจถึง 280 ไล่‘เท้ง’เช็คหลังบ้านหลังท้าเปิด‘งูเห่า’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved