ริยาด/มอสโก/เคียฟ (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - คณะผู้แทนสหรัฐฯ เชื่อว่าการหารือกับตัวแทนรัสเซียเกี่ยวกับแผนสันติภาพในวันจันทร์ จะดำเนินไปตามแผนและนำไปสู่การหยุดยิงแบบเต็มรูปแบบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้านทูตพิเศษสหรัฐฯ ชี้ปัญหาขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทำให้บอบช้ำกันทั้งสองฝ่าย

คณะผู้แทนสหรัฐฯ และตัวแทนจากรัสเซีย เริ่มพบหารือแผนสันติภาพรัสเซียกับยูเครน ร่วมกันที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 24 มี.ค. มุ่งเน้นเรื่องรายละเอียดของข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายจะไม่โจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานของอีกฝ่ายเป็นระยะเวลา 30 วัน และอาจขยายกรอบข้อตกลงดังกล่าวเพิ่มเป็นจะไม่โจมตีเรือของอีกฝ่ายในทะเลดำด้วย ซึ่งทางตัวแทนสหรัฐฯ ก็เชื่อมั่นว่ามันจะเป็นการนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงแบบสมบูรณ์ และยุติเหตุสงครามที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา

สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์และพูดถึงประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซียว่า เขาไม่คิดว่าปูตินจะเป็นคนไม่ดี และตัวเขายังรู้สึกได้ว่าผู้นำรัสเซีย ก็ต้องการสันติภาพเช่นกัน เนื่องจากสงครามที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งรัสเซียและยูเครนบอบช้ำมามากพอแล้ว ส่วนประเด็นความวิตกในกลุ่มพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่ว่ารัสเซียอาจจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเมื่อทำข้อตกลงหยุดยิงและบุกโจมตีเพื่อนบ้านอื่นๆ วิตคอฟฟ์ระบุว่า เขาไม่เห็นว่าปูตินต้องการยึดเอายุโรปทั้งหมด ปัญหาขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกับที่เคยเกิดในสงครามโลกครั้งที่ 2

ขณะที่ตัวแทนยูเครน ระบุหลังจบการหารือกับตัวแทนสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค. ว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและ
ตรงประเด็น และทางยูเครนก็กำลังดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นั่นก็คือสันติภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืน ส่วนทางด้านตัวแทนรัสเซียออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า นอกจากประเด็นข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯ เป็นคนกลางในการเจรจาแล้ว การหารือครั้งนี้ รัสเซียต้องการหารือเรื่องความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นข้อตกลงการส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำเมื่อปี 2022 ซึ่งมีตุรกีและยูเอ็นเป็นคนกลางในการเจรจาด้วย เพื่อให้การส่งออกสินค้าผ่านทะเลดำเป็นไปอย่างปลอดภัย ซึ่งก็เชื่อมโยงกับประเด็นที่สหรัฐฯ จะผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายเพิ่มข้อตกลงที่จะไม่โจมตีเรือของอีกฝ่ายในทะเลดำ

ส่วน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ พาเวล ซารูบินผู้สื่อข่าวรัสเซีย ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทางช่องเทเลแกรมของผู้สื่อข่าวรายนี้ ระบุว่า การหารือทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการปูทางไปสู่การพบหารือแบบพบหน้าระหว่างผู้นำสองฝ่ายต่อไป และว่าการพบหารือระหว่างผู้แทนของสหรัฐฯ และรัสเซีย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ก็จะเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ ของการเตรียมความพร้อมก่อนการพบหารือครั้งสำคัญระหว่างปูตินกับทรัมป์ อย่างไรก็ดี เปสคอฟไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่า จะยังมีการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างปูตินกับทรัมป์
หลังจากนี้อีกหรือไม่