แพทย์วาติกันเผยสาเหตุ“โป๊ปฟรานซิส”สิ้นพระชนม์จากพระโรคหลอดเลือดสมองภาวะหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว จัดพิธีพระศพเรียบง่าย ฉีกประเพณีดั้งเดิม เปิดให้ประชาชนเข้าถวายความเคารพและอาลัยเปิดขั้นตอนพิธีศักดิ์สิทธิ์ เลือกผู้สืบทอดตำแหน่ง“พระสันตะปาปา”พระองค์ใหม่ ขณะที่ผู้นำโลกร่วมไว้อาลัย ด้านนายกรัฐมนตรีไทย ขอให้หน่วยงานของรัฐลดธงครึ่งเสา 23- 25 เมษายน 2568
จากกรณีที่สำนักวาติกัน ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประมุขแห่งศาสนานิกายโรมันคาทอลิก และนครรัฐวาติกัน สิ้นพระชนม์แล้ว ในวัย 88 ปี ในเวลา 7.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังเข้ารับการรักษาตัวจากอาการป่วยโรคปอดบวม 2 ข้าง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยหลังจากนี้จะมีพิธีคัดเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ภายใน 15-20 วัน
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าศาสตราจารย์อันเดรียอาร์คันเจลี ผู้อำนวยการกองอนามัยและสุขาภิบาลแห่งนครรัฐวาติกัน เป็นผู้ออกใบมรณบัตรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสอย่างเป็นทางการ ซึ่งระบุสาเหตุการสิ้นพระชนม์ว่าเกิดจากพระโรคหลอดเลือดสมอง ตามด้วยพระอาการโคม่า และภาวะหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว โดยพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกเชิญลงบรรทมในหีบพระศพเมื่อเวลา 20.00 น. คืนวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่อาคารโดมุส แซงเต มาร์เธ (DomusSanctaeMarthae) พระคาร์ดินัลเควินโจเซฟฟาร์เรลล์กาแมร์เลนโกแห่งคริสตจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ตอนนี้เป็นรักษาการผู้นำวาติกันชั่วคราว เป็นผู้รับผิดชอบยืนยันการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรานซิส ปิดผนึกห้องพำนักของพระองค์ และอัญเชิญพระศพลงบรรทมในหีบพระศพ โดยมีครอบครัวของโป๊ปและเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่นๆ ของวาติกันเข้าร่วมในพิธีด้วย
ทั้งนี้ สำนักวาติกันจะตั้งพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถวายความเคารพและอาลัย ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร ในเช้าวันพุธนี้ คาดกันว่าพระศพของโป๊ปฟรานซิสจะประดิษฐานอยู่ในหีบพระศพ แทนการตั้งบนแท่นสูงแบบดั้งเดิม สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์ที่ทรงเน้นความเรียบง่าย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักวาติกันเผยแพร่ภาพพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในหีบพระศพแบบเปิด พระองค์ทรงสวมอาภรณ์เต็มพระยศ และมีลูกประคำอยู่ในพระหัตถ์ โดยมีคณะคาร์ดินัลและเจ้าหน้าที่ซึ่งถวายงานรับใช้ใกล้ชิด ร่วมแสดงความไว้อาลัย ซึ่งภาพดังกล่าวบันทึกภายในอาคารนักบุญมาร์ธา ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตลอดระยะเวลา 12 ปีซึ่งทรงปกครองวาติกันและเป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วย
สำหรับการคัดเลือกผู้สืบตำแหน่งพระสันตะปาปาพระองค์ต่อไป จะดำเนินการในกระบวนการที่เรียกว่า “คอนเคลฟ” (conclave) คำในภาษาละตินที่แปลว่า “ห้องที่สามารถล็อกได้”หรือ”ห้องปิด”โดยจะมีสมาชิกของคณะพระคาร์ดินัลลงคะแนนเสียงหลังประตูที่ปิดล็อกของโบสถ์น้อยซิสทีน ในนครวาติกัน ซึ่งมีชื่อเสียงจากภาพจิตรกรรมฝาผนังเพดานที่วาดโดยมีเกลันเจโล พระคาร์ดินัล ซึ่งโดดเด่นด้วยชุดครุยสีแดงได้รับการแต่งตั้งจากพระสันตะปาปาแต่ละองค์ เพื่อมีสิทธิเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ถัดไปนั้นเองและที่สำคัญ พระคาร์ดินัลที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปีเท่านั้น ที่มีสิทธิออกเสียงในคอนเคลฟ จากสมาชิกคณะพระคาร์ดินัลทั้งหมด 252 คน โดยขณะนี้มี 138 คน ที่มีคุณสมบัติในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่
เมื่อ “พระสันตะปาปา” มุขนายกแห่งคริสตจักรกรุงโรมสิ้นพระชนม์ จะมีมาตรการคัดเลือก “พระสันตะปาปาองค์ใหม่” อย่างไร การประกาศการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปา คาเมอร์เลนโกแห่งคริสตจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตรวจสอบการสิ้นพระชนม์อย่างเป็นทางการ โดยทำพิธีเรียกชื่อพระสันตะปาปาสามครั้ง ถ้าไม่มีการตอบรับ ถือว่าสิ้นพระชนม์ จากนั้นคาเมอร์เลนโก จะทำลาย “แหวนของพระสันตะปาปา” เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร
สำหรับช่วงเวลาระหว่างรอการเลือกตั้ง ปกติจะใช้เวลาประมาณ 9 วัน (หรืออาจยืดหยุ่นตามความเหมาะสม) โดยคณะพระคาร์ดินัลทั้งหมด (College of Cardinals) คาเมอร์เลนโก จัดงานศพสวดภาวนา 9 วัน และประชุมเพื่อเตรียมการเลือกตั้งการเรียกประชุมเลือกตั้งเฉพาะพระคาร์ดินัลที่อายุต่ำกว่า 80 ปี ณ วันที่บัลลังก์ว่าง ปกติจะมีประมาณ 100-120 คน โดยจะลงคะแนนละที่โบสถ์น้อยซิสทีน วาติกัน ซึ่งพระคาร์ดินัลทั้งหมดเข้าสู่ Conclave โดยถูกแยกจากโลกภายนอก ปิดตายสถานที่ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอินเทอร์เน็ต ทำการสาบานว่าจะรักษาความลับ
ส่วนการลงคะแนนเสียงเลือกพระสันตะปาปา ต้องได้เสียง 2 ใน 3 บวก 1 เสียง จึงจะถือว่าได้รับการเลือกตั้ง หากไม่มีผู้ใดได้รับเลือกภายใน 13 วัน จะมีการเลือกใหม่โดยจำกัดให้เหลือเพียง 2 ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด แต่ยังคงต้องได้เสียง 2 ใน 3 บวก 1 เสียงเช่นเดิม เพื่อส่งเสริมความเป็นเอกภาพ และขัดขวางผู้สมัครที่พยายามหาทางประนีประนอมเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ลงคะแนนวันละ 4 รอบ 2 รอบเช้า 2 รอบบ่าย
โดยวิธีการลงคะแนน มีดังนี้ เขียนชื่อผู้ที่ต้องการเลือกลงบนกระดาษ นำไปหย่อนลงในภาชนะพิเศษ ผู้แทนคอยรวบรวมและนับคะแนน ควันจากปล่องควัน ควันดำ (fumatanera): ยังเลือกไม่ได้
ควันขาว (fumatabianca): ได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว
เมื่อมีผู้ได้รับเลือกและยอมรับตำแหน่ง จะถามว่า “คุณจะใช้ชื่อใด?” จากนั้นจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเครื่องแบบพระสันตะปาปา พระคาร์ดินัลโปรโตเดอาคอนแห่งคริสตจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จะออกมาประกาศบนระเบียงของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ด้วยคำว่า “HabemusPapam” (เรามีพระสันตะปาปาแล้ว) พระสันตะปาปาองค์ใหม่ปรากฏตัวให้สาธารณชนเห็นเป็นครั้งแรกและให้พร ซึ่งระยะเวลาโดยรวมปกติทั้งกระบวนการใช้เวลา ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ หลังการสิ้นพระชนม์ การลงคะแนนอาจจบภายในไม่กี่วัน หรือยืดเยื้อเป็นสัปดาห์ (เช่น กรณีที่ลงคะแนนหลายรอบแล้วไม่มีใครได้เสียงถึง 2 ใน 3) นั่นเอง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าผู้นำจากประเทศทั่วโลกต่างร่วมไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสโดยโดนัลด์ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวยกย่องสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสว่า พระองค์เป็นคนที่รักโลกพร้อมสั่งให้สถานที่ราชการของรัฐบาลทั่วประเทศลดธงครึ่งเสาเพื่อร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ พร้อมโพสต์ข้อความผ่านทาง Truth Social ระบุว่า “ขอให้โป๊ปฟรานซิสได้พักสงบ ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรพระองค์และทุกคนที่รักพระองค์”
ด้านโจไบเดนอดีตผู้นำสหรัฐ ได้โพสต์ข้อความว่า “จิลล์และฉันเสียใจอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส พระองค์ไม่เหมือนใครที่เคยเสด็จมาก่อนพระองค์ สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสจะถูกจดจำในฐานะผู้นำที่มีความสำคัญที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยของเรา”
บารัค โอบามาประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่าน X “@BarackObama” ระบุข้อความว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นผู้นำที่หาได้ยากที่ทำให้พวกเราอยากเป็นคนดีขึ้น ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและท่าทีของพระองค์ที่ทั้งเรียบง่ายและลึกซึ้ง
ว่าที่นายกรัฐมนตรีฟรีดริชเมิร์ตซ์ของเยอรมนี โพสต์ข้อความทาง X ว่า “การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทำให้ผมรู้สึกเศร้าอย่างสุดซึ้ง พระองค์จะถูกจดจำในฐานะผู้ที่ทุ่มเทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อผู้เปราะบางที่สุด ความยุติธรรม และการปรองดอง”
เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่า “ผมรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของโป๊บฟรานซิส พระองค์ทรงอุทิศพระองค์เองเพื่อสันติภาพ ความยุติธรรมทางสังคมและผู้ที่เปราะบางที่สุด ทิ้งไว้ซึ่งมรดกอันยิ่งใหญ่ของพระองค์เสด็จสู่สุขติ”
อูร์ซูลา ฟอน แดร์ไลเอินประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แสดงความอาลัยในแพลตฟอร์ม X “@vonderleyen” ระบุว่า “สมเด็จพระสันตะปาปา สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนนับล้าน ไม่เพียงแต่ในคริสตจักรคาทอลิก แต่ด้วยความถ่อมตนและความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อผู้ด้อยโอกาสทั่วโลก”
นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ออกมาโพสต์ข้อความทาง X ว่า เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปา พร้อมแสดงความเสียใจต่อคริสตศานิกชนทั่วโลก พระองค์จะถูกจดจำในฐานะผู้นำแห่งความเมตตา ความถ่อมตน และความกล้าหาญทางจิตวิญญาณตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก“ไทยคู่ฟ้า” เผยแพร่ หนังสือด่วนที่สุดที่ นร 0508/ว 159 เรื่อง สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ประมุขแห่งศาสนานิกายโรมันคาทอลิก และนครรัฐวาติกัน สิ้นพระชนม์โดยหนังสือระบุว่า ด้วย สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส (His Holiness Pope Francis) ประมุขแห่งศาสนานิกายโรมันคาทอลิก และนครรัฐวาติกัน สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษานายกรัฐมนตรีจึงได้มีคำสั่งให้ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ ลดธงครึ่งเสาทั่วราชอาณาจักร เพื่อถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระสันตะปาปาประมุขแห่งศาสนานิกายโรมันคาทอลิกและนครรัฐวาติกัน ในวันพุธที่ 23- 25 เม.ย.68 รวม 3 วันทำการ และขอความร่วมมือให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งลดธงครึ่งเสาตามกำหนดวันดังกล่าวจึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอได้โปรดแจ้งให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐในกำกับดูแลทราบและถือปฏิบัติต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี