9 พ.ค. 2568 เว็บไซต์ news.un.org ขององค์การสหประชาชาติ (UN) เผยแพร่จดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ UNRWA condemns ‘storming’ of schools in East Jerusalem ระบุว่า หน่วยงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของทางการอิสราเอล ที่ส่งกองกำลังบุกเข้าไปในโรงเรียน 3 แห่ง ในเขตเยรูซาเล็มตะวันออก เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิในการศึกษาและความปลอดภัยของเด็ก
ตามรายงานของหน่วยงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลพร้อมอาวุธครบมือ ได้บุกเข้าไปในโรงเรียนในค่ายผู้ลี้ภัยชูฟาตเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 ขณะที่โรงเรียนกำลังทำการเรียนการสอนอยู่ ทำให้เด็กๆ ชาวปาเลสไตน์กว่า 550 คน ซึ่งบางคนอายุเพียง 6 ขวบ ต้องออกจากห้องเรียน มีเจ้าหน้าที่ของ UNRWA 1 คนถูกควบคุมตัว และโรงเรียนที่ดำเนินการโดยหน่วยงานทั้งหมดในเยรูซาเล็มตะวันออกถูกสั่งให้รื้อย้ายออกไปในภายหลังเพื่อความปลอดภัย
ฟืลิปเป ลาซซารินี (Philippe Lazzarini) กรรมาธิการใหญ่ของ UNRWA กล่าวว่า นี่คือการล่วงละเมิดต่อแด็กและการศึกษา การบุกรุกและบังคับให้ปิดโรงเรียนถือเป็นการเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนั้น การบังคับใช้คำสั่งปิดโรงเรียนของ UNRWA เมื่อเดือน เม.ย. 2568 ที่ผ่านมานั้น ชี้ให้เห็นว่า ทางการอิสราเอลกำลังปฏิเสธสิทธิขั้นพื้นฐานในการเรียนรู้ของเด็กชาวปาเลสไตน์ ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้เป็นสถานที่ที่ไม่อาจละเมิดได้ของสหประชาชาติ ดังนั้นโรงเรียนของ UNRWA ต้องเปิดทำการต่อไปเพื่อปกป้องเด็กทั้งรุ่น
โรแลนด์ ฟรีดริช (Roland Friedrich) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการ UNRWA ในเขตเวสต์แบงก์ โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า เด็กซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์มีความเสี่ยงทันทีที่จะสูญเสียโอกาสเข้าถึงการศึกษา ซึ่งการกระทำของอิสราเอลในครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดพันธกรณีอย่างร้ายแรงในฐานะรัฐสมาชิกของสหประชาชาติภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ชุมชนระหว่างประเทศยึดมั่นในพันธกรณีและพื้นที่ด้านมนุษยธรรมของ UNRWA ในเขตเวสต์แบงก์
จดหมายข่าวของ UN ยังรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน วิกฤติด้านมนุษยธรรมในดินแดนฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป โดยครัวเรือนกว่า 3 ใน 4 รายงานว่ามีน้ำใช้น้อยลง หลังจากผ่านไป 10 สัปดาห์หลังจากที่อิสราเอลปิดกั้นความช่วยเหลือ อีกทั้งการสำรวจที่ดำเนินการโดยนักมนุษยธรรมในเดือน เม.ย. 2568 พบว่า ร้อยละ 90 ของครัวเรือนเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำอย่างร้ายแรง โดยมักต้องเลือกระหว่างสุขอนามัยพื้นฐานและการปรุงอาหาร
อีกทั้งยังมีรายงานด้วยว่า ผู้คนต้องพึ่งพาผู้ขายเอกชนมากขึ้นสำหรับน้ำดื่ม เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะพังทลาย การขาดแคลนเชื้อเพลิงและการเข้าถึงอุปกรณ์ซ่อมแซมที่จำกัดทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น โรงงานกำจัดเกลือในกาซาทางตอนใต้ยังคงหยุดทำงานเนื่องจากสายไฟฟ้าขาด ในขณะที่ท่อส่งน้ำหลักที่ได้รับความเสียหายเมื่อช่วงต้นปี 2568 ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) รายงานปัญหาสุขอนามัยในวงกว้าง รวมถึงส้วมที่ใช้งานได้ไม่ดี สบู่ขาดแคลน และน้ำเสียล้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก เช่น ในเมืองจาบาเลียและเมืองนาซลา ศูนย์พักพิงที่แออัดต้องเผชิญกับหนูและแมลงรบกวน ทำให้เกิดความกลัวการระบาดของโรคเพิ่มขึ้นท่ามกลางบริการทางการแพทย์ที่ตึงตัว โดย OCHA เตือนว่า หากวิกฤตินี้ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีการควบคุม อาจเกิดภัยพิบัติทางสาธารณสุขได้
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวออนไลน์ The Times of Israel ของอิสราเอล รายงานข่าว Israel shutters UNRWA schools in East Jerusalem, in line with ban on aid agency ระบุว่า ตำรวจอิสราเอลสั่งปิดโรงเรียน 6 แห่งที่ดำเนินการโดย UNRWA ในค่ายผู้ลี้ภัยชูอาฟัตและย่านอื่นๆ ของเยรูซาเล็มตะวันออกเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 โดยอาศัยอำนาจของกฎหมายที่ห้ามหน่วยงานช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ของสหประชาชาติดำเนินการในเมืองหลวง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งรวมถึงกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮามาส
การปิดโรงเรียนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตำรวจออกประกาศไปยังโรงเรียนเมื่อเดือน เม.ย. 2568 และถือเป็นการบังคับใช้กฎหมายห้ามหน่วยงานบรรเทาทุกข์และงานของสหประชาชาติในดินแดนอธิปไตยของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2568 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวไม่บังคับใช้กับเขตเวสต์แบงก์หรือฉนวนกาซา
คำสั่งปิดโรงเรียนระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป จะไม่มีการดำเนินการสถาบันการศึกษา หรือจ้างครู เจ้าหน้าที่สอน หรือเจ้าหน้าที่ใดๆ และจะห้ามไม่ให้รองรับนักเรียนหรืออนุญาตให้นักเรียนเข้าไปในสถาบันการศึกษาแห่งนี้ อนึ่ง อิสราเอลมีความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกับ UNRWA มานาน โดย UNRWA โต้แย้งว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวทำให้วิกฤติผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์คงอยู่ต่อไป
ความผิดหวังที่มีต่อ UNRWA ในเยรูซาเล็มเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากอิสราเอลพบว่ากลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซาแฝงตัวอยู่ในโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงาน และความไม่พอใจมาถึงขีดสุดหลังจากการโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่ของ UNRWA จำนวนหนึ่งเข้าร่วมการโจมตีด้วย โดยอิสราเอลอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน UN ร้อยละ 10 มีความสัมพันธ์กับกลุ่มฮามาส แต่หน่วยงานได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ขอบคุณเรื่องจาก
https://news.un.org/en/story/2025/05/1163041
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี