16 พ.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump officials back steeper Medicaid, food stamp work requirements อ้างความเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Doanld Trump) 4 คน ที่เผยแพร่ใน นสพ.The New York Times ขณะที่เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2568 พรรครีพับลิกัน ต้นสังกัดของทรัมป์ ผลักดันองค์ประกอบสำคัญในแพ็คเกจงบประมาณ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดการทำงานใหม่และขยายเพิ่มเติมสำหรับการรับ Medicaid และผลประโยชน์จากโครงการ Supplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) ซึ่งเป็นโครงการความช่วยเหลือด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

บทความใน นสพ.The New York Times อ้างถึง โรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี จูเนียร์ (Robert F. Kennedy Jr.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ , บรูค โรลลินส์ (Brooke Rollins) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ , สก็อตต์ เทอร์เนอร์ (Scott Turner) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและพัฒนาชุมชนสหรัฐอเมริกา และ เมห์เหม็ด ออซ (Mehmet Oz) ผู้อำนวยการศูนย์ Medicare and Medicaid ที่กล่าวว่า หน่วยงานมีแนวทางนโยบายที่ตรงไปตรงมามาก นั่นคือ ผู้ใหญ่ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ซึ่งได้รับสวัสดิการจะต้องทำงาน เข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพ หรือเป็นอาสาสมัครในชุมชนของตนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง

ขณะที่คู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรคเดโมแครต ได้ออกมาคัดค้านแนวคิดดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะทำให้ผู้คนนับล้านต้องสูญเสียสิทธิประโยชน์ อาทิ แองจี้ เครก (Angie Craig) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากรัฐมินนิโซตา และเป็นสมาชิกอาวุโสของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เกษตรของสภาผู้แทนราษฎร ที่กล่าวว่า แทนที่จะทำให้โปรแกรม (SNAP) ทำงานได้ดีขึ้นสำหรับผู้สูงอายุและผู้ปกครองของเด็กอายุเพียง 7 ขวบ แต่ร่างกฎหมายของพรรครีพับลิกันกลับเพิ่มข้อกำหนดด้านเอกสารเพื่อให้เข้าถึงอาหารได้ยากขึ้น

ฝ่ายบริหารของรัฐบาลทรัมป์ มองว่า ข้อกำหนดด้านการทำงานจะช่วยลดการพึ่งพาโครงการสวัสดิการของรัฐบาลกลางและจำเป็นต่อการประหยัดเงินภาษีของประชาชน ตามบทความที่เผยแพร่ข้างต้น ได้ย้ำว่า กระทรวงเกษตร กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ และกระทรวงการเคหะและพัฒนาชุมชน พร้อมที่จะนำข้อกำหนดด้านการทำงานมาใช้ เมื่อทำเช่นนั้น เราจะร่วมมือกับรัฐสภา มลรัฐ ชุมชน และบุคคลต่างๆ เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้กลายเป็นความจริงอย่างถาวร

อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วน แสดงความเป็นห่วงว่าการตัดงบประมาณสำหรับชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยอาจส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนของประชาชนและคุกคามเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่ลดลงเพียงเล็กน้อย โดยขณะนี้มีชาวอเมริกันมากกว่า 41 ล้านคนได้รับสวัสดิการอาหารในโครงการ SNAP และ 71 ล้านคนได้รับความคุ้มครองจาก Medicaid ซึ่งเป็นโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/trump-officials-back-steeper-medicaid-food-stamp-work-requirements-2025-05-15/

043...