ยอมรับภาษี-อย่าผลักภาระให้ผู้บริโภค! ‘ทรัมป์’โต้ยักษ์ค้าปลีก‘วอลมาร์ท’ปมโอดขอปรับราคาสินค้า

ยอมรับภาษี-อย่าผลักภาระให้ผู้บริโภค! ‘ทรัมป์’โต้ยักษ์ค้าปลีก‘วอลมาร์ท’ปมโอดขอปรับราคาสินค้า

วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 12.47 น.

18 พ.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump tells Walmart to 'eat the tariffs' instead of raising prices ระบุว่า หลังจากที่ วอลมาร์ท (Walmart) ธุรกิจห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่พึ่งสำคัญในการหาซื้อสินค้าสำหรับครัวเรือนในสหรัฐอเมริกา ประกาศว่าในช่วงปลายเดือน พ.ค. 2568 จำเป็นต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) บังคับใช้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2568 ทรัมป์ได้ออกมาตอบโต้ท่าทีดังกล่าว

“วอลมาร์ทควรหยุดโทษภาษีศุลกากรว่าเป็นสาเหตุของการขึ้นราคาสินค้าทั้งหมด วอลมาร์ททำเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งเยอะกว่าที่คาดไว้มาก ระหว่างวอลมาร์ตกับจีน พวกเขาควรจะยอมรับภาษีศุลกากร และไม่เรียกเก็บเงินจากลูกค้าที่มีคุณค่าใดๆ ทั้งสิ้น” ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์


ขณะที่คำชี้แจงจากวอลมาร์ท ระบุว่า บริษัทได้พยายามรักษาราคาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้มาโดยตลอด การกระทำเช่นนี้จะไม่หยุดลง จะรักษาราคาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ตราบเท่าที่ทำได้ โดยคำนึงถึงความเป็นจริงของอัตรากำไรจากการขายปลีกที่ต่ำ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2568 ดั๊ก แม็คมิลลอน (Doug McMillon) ซีอีโอของวอลมาร์ท กล่าวว่า วอลมาร์ทไม่สามารถแบกรับต้นทุนภาษีทั้งหมดได้เนื่องจากอัตรากำไรจากการขายปลีกที่แคบ อย่างไรก็ตาม บริษัทมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจีน จะไม่ทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บริษัทหลายแห่งในสหรัฐฯ ได้ปรับลดหรือถอนการคาดการณ์ทั้งปีออกไป ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรทางการค้า โดยเฉพาะจีน เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ซึ่งในฐานะผู้นำด้านสุขภาพของผู้บริโภคในสหรัฐฯ คำชี้แจงที่ชัดเจนของวอลมาร์ทเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสงครามการค้าส่งผลกระทบต่อภาคค้าปลีกอย่างไร

วอลมาร์ทนั้นขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการจัดการต้นทุนอย่างหนักหน่วงมากกว่าบริษัทอื่นๆ เพื่อรักษาราคาให้อยู่ในระดับต่ำ และทุกสัปดาห์ ผู้คน 255 ล้านคนจับจ่ายซื้อของในร้านหรือสั่งซื้อทางออนไลน์ทั่วโลก และร้อยละ 90 ของประชากรในสหรัฐฯ อาศัยอยู่ห่างจากห้างวอลมาร์ทไม่เกิน 10 ไมล์ (16 กม.)

ความเคลื่อนไหวของวอลมาร์ทเกิดขึ้นประมาณ 3 สัปดาห์หลังจากมีรายงานที่เผยแพร่ว่า แอมะซอน (Amazon) กำลังวางแผนที่จะเปิดเผยว่าภาษีศุลกากรที่ทรัมป์กำหนดขึ้นนั้นทำให้ต้นทุนของผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเท่าใด และทำเนียบขาวได้โจมตีแอมะซอนเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว ซึ่งบริษัทได้ปฏิเสธทันที

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/world/us/trump-tells-walmart-eat-tariffs-instead-raising-prices-2025-05-17/

043...

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top