“ทรัมป์เผย รัสเซีย–ยูเครนตกลงเริ่มเจรจาหยุดยิง แต่ยังไร้กำหนดเวลาแน่ชัด”
20 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยภายหลังการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า รัสเซียและยูเครนตกลงจะเริ่มต้นการเจรจาเพื่อหยุดยิงโดยทันที พร้อมระบุว่า “มีความคืบหน้าบางอย่าง” ในกระบวนการสันติภาพ
อย่างไรก็ตาม ฝั่งเครมลินยังยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการเจรจาดังกล่าว
ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า เขาได้แจ้งแผนการเจรจาแก่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี และผู้นำชาติยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ฟินแลนด์ รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ภายหลังการพูดคุยกับปูติน โดยระบุว่า “รัสเซียและยูเครนจะเริ่มเจรจาเพื่อหยุดยิงทันที และที่สำคัญกว่านั้นคือเพื่อยุติสงคราม”
ด้านปูตินให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่เมืองโซชิว่า “เราตกลงกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่ารัสเซียพร้อมหารือกับยูเครนในร่างบันทึกข้อตกลงเพื่อสันติภาพในอนาคต” พร้อมย้ำว่ากระบวนการเจรจา “กำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินเปิดเผยว่า ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอนสำหรับการหยุดยิง โดยให้เหตุผลว่า “รายละเอียดมีความซับซ้อน แม้ทุกฝ่ายต้องการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว แต่ปัญหากลับอยู่ที่รายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านี้ ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ยากกว่าที่คาดคิด”
แม้ชาติยุโรปจะเดินหน้าเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยนายกรัฐมนตรีเยอรมนีเปิดเผยว่าเป็นผลจากการสรุปสถานการณ์ของทรัมป์ แต่ทรัมป์กลับชะลอการดำเนินการดังกล่าว โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ถ้าเราทำตอนนี้ อาจแย่ลงกว่าเดิม... แต่ก็อาจถึงเวลาที่ต้องทำ” พร้อมเสริมอีกว่า “มีอัตตาใหญ่ ๆ หลายฝ่ายอยู่ในนี้ ถ้าไม่มีความคืบหน้า ผมก็อาจถอนตัว เพราะนี่ไม่ใช่สงครามของผม”
ด้านประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แถลงภายหลังการพูดคุยว่า ยูเครนพร้อมเจรจาโดยตรงกับรัสเซียในทุกรูปแบบที่สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม พร้อมเสนอให้มีการจัดประชุมระดับสูงร่วมกับรัสเซีย สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร โดยเสนอให้ตุรกี วาติกัน หรือสวิตเซอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพ
ทรัมป์ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอแสดงความสนใจจะเป็นเจ้าภาพการเจรจาดังกล่าว ซึ่งเครมลินก็ระบุว่าเปิดรับข้อเสนอนี้เช่นกัน แต่ยังไม่มีการตกลงเรื่องสถานที่จัดประชุมอย่างเป็นทางการ
แหล่งข่าววงในเผยว่า บรรดาผู้นำยุโรปประหลาดใจที่ทรัมป์ไม่เลือกใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัสเซีย ขณะที่ อูร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรประบุเพียงว่า การสนทนากับทรัมป์เป็น “การพูดคุยที่ดี” และย้ำว่าสหรัฐฯ ควรมีบทบาทในกระบวนการสันติภาพต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวแทนจากรัสเซียและยูเครนเพิ่งพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีที่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี แต่การเจรจาก็ยังไม่สามารถสร้างความคืบหน้าได้ โดยเฉพาะเมื่อปูตินปฏิเสธข้อเสนอของเซเลนสกีที่จะพบกันโดยตรง
ในขณะนี้ กองกำลังรัสเซียยังคงควบคุมพื้นที่ยูเครนได้ประมาณหนึ่งในห้าของประเทศ และรัสเซียยังคงยืนยันข้อเรียกร้องให้ยูเครนถอนกำลังออกจาก 4 แคว้นที่มอสโกอ้างสิทธิครอบครอง
ปูตินกล่าวปิดท้ายว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องกำจัดรากเหง้าของวิกฤตนี้ให้ได้” พร้อมย้ำว่า ร่างบันทึกข้อตกลงสันติภาพจะต้องครอบคลุมทั้งหลักการเจรจา เงื่อนไข และกรอบเวลาในการยุติสงคราม
แม้ความเคลื่อนไหวล่าสุดจะสะท้อนความพยายามในการเปิดทางสู่สันติภาพ แต่เส้นทางดังกล่าวยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งจากเงื่อนไขของรัสเซีย และความลังเลของมหาอำนาจตะวันตกที่ยังไม่เห็นจุดร่วมที่ชัดเจน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี