21 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า จีนและอาเซียนได้บรรลุข้อตกลงในการยกระดับความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) โดยจะครอบคลุมเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และอุตสาหกรรมเกิดใหม่
ข้อตกลงฉบับใหม่นี้ ที่เรียกว่า "FTA เวอร์ชัน 3.0" มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับระบบการค้าระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ และจะเป็นต้นแบบของความร่วมมือที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และมุ่งสู่ผลประโยชน์ร่วมกัน
ข้อมูลจากศุลกากรจีนระบุว่า อาเซียน ซึ่งประกอบด้วย 10 ประเทศ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน โดยมูลค่าการค้าระหว่างกันในไตรมาสแรกของปี 2025 อยู่ที่ 234,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเจรจายกระดับความตกลงฉบับนี้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างการบูรณาการระหว่างระบบการผลิตและการขนส่งของทั้งสองฝ่าย
จีนเร่งเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เคยประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงมาตรการที่เข้มงวดกับจีน แม้ว่าบางส่วนจะถูกชะลอไว้ภายหลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงพักข้อพิพาทด้านภาษีบางรายการในเดือนนี้
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้เดินทางเยือนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 3 แห่ง เพื่อกระชับความร่วมมือในภูมิภาค พร้อมเรียกร้องให้ประเทศในเอเชียร่วมมือกันต่อต้านการแบ่งขั้วทางภูมิรัฐศาสตร์ การไม่ยึดหลักพหุภาคี และการกีดกันทางการค้า
คาดการณ์ว่าจะมีการลงนามอย่างเป็นทางการในข้อตกลงการค้าก่อนสิ้นปีนี้ โดยเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน มีการลงนามครั้งแรกในปี 2545 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2553
ขอบคุณข้อมูลจาก : CNA
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี