วันพฤหัสบดี ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
ภาคเอกชน‘กัมพูชา’หนุนรัฐนำข้อพิพาท‘ไทย’ขึ้นศาลโลก โวที่นี่เอื้อดึงดูดนักลงทุนนานาชาติ

ภาคเอกชน‘กัมพูชา’หนุนรัฐนำข้อพิพาท‘ไทย’ขึ้นศาลโลก โวที่นี่เอื้อดึงดูดนักลงทุนนานาชาติ

วันอังคาร ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 17.31 น.
Tag : พิพาทไทยกัมพูชา ศาลโลก กัมพูชาดึงดูงต่างชาติ นักลงทุน
  •  

3 มิ.ย. 2568 นสพ.The Phnom Penh Post ของกัมพูชา รายงานข่าว Pundits confident Cambodian-Thai trade relations will continue as normal ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวชื่นชมการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชาในการหาทางยุติข้อพิพาทเรื่องพรมแดนที่ยังคงดำเนินอยู่ระหว่างกัมพูชาและไทยผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พื้นที่ดังกล่าวล้อมรอบวัดตาเมือนธม วัดตาเมือนตุง และวัดตากระเป่ย โดยแหล่งข่าววงในเชื่อว่าการตัดสินใจของรัฐบาลจะช่วยรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งระหว่าง 2 ประเทศ

ในการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการร่วมของสมัชชาแห่งชาติและวุฒิสภาในเช้าวันที่ 2 มิ.ย. 2568 ฮุน เซน (Hun Sen) ประธานวุฒิสภากัมพูชา เตือนว่า หากปัญหาชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยไม่ได้รับการแก้ไขผ่านกลไกของ ICJ อาจนำไปสู่สถานการณ์เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา ซึ่งดูเหมือนว่าอิสราเอลและปาเลสไตน์จะติดอยู่ในการขัดแย้งที่ไม่สิ้นสุด


ฮุน เซน ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บันทึกความเข้าใจปี 2543 ที่ลงนามโดยทั้ง 2 ประเทศนั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป เนื่องจากไม่พบข้อยุติใดๆ เลยในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการนำบันทึกความเข้าใจนี้ไปปฏิบัติ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงข้อเท็จจริงที่ทหารกัมพูชาเสียชีวิตในการปะทะครั้งล่าสุด พร้อมกับย้ำว่าหากมีความจริงใจเหตุใดจะต้องกลัวการไปขึ้นศาลด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และการท่องเที่ยวเห็นพ้องต้องกัน โดยระบุว่าหากข้อพิพาทยังคงยืดเยื้อต่อไป ทั้ง 2 ประเทศจะได้รับผลกระทบเชิงลบ ตามข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) การค้าระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่า 4,290 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 จาก 3,710 ล้านเหรียญสหรัฐในปีก่อนหน้า การส่งออกของกัมพูชาไปยังไทยอยู่ที่ 844.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 3.3 ในขณะที่การนำเข้าของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 3,440 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 ส่งผลให้กัมพูชาขาดดุลการค้าประมาณ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับ 2.08 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 การค้าทวิภาคีมีมูลค่า 1.49 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 การส่งออกมายังประเทศไทยมีมูลค่า 327.78 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.9 ขณะที่การนำเข้าของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.17 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4

Lor Vichet รองประธานสมาคมการค้าจีนในกัมพูชา (CCCA) กล่าวว่า แม้จะมีการปะทะกันระหว่างกัมพูชาและไทยในช่วงสั้นๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ทางการค้าและการทูตระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ และยังไม่มีการประกาศคว่ำบาตรสินค้าของกันและกันอย่างเป็นทางการ การแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยลดผลกระทบต่อการค้าได้

ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีประเทศใดประกาศคว่ำบาตรสินค้าของอีกฝ่าย จึงยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงการลดลงของการค้าระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ การปะทะกันที่ชายแดนเมื่อเร็วๆ นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ตราบใดที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้ข้อพิพาทชายแดนลุกลามไปสู่ความขัดแย้งทางการทูตหรือการค้า ข้อพิพาทก็จะไม่ลามไปยังพื้นที่อื่นๆ นอกจากนั้น กฎหมายการลงทุนของกัมพูชายังเอื้ออำนวยและไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงจากประเทศเพื่อนบ้าน จะยังคงมองว่ากัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่ทำกำไรได้

“ข้อได้เปรียบด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งที่สุดประการหนึ่งของกัมพูชา ซึ่งประเทศอื่นๆ จำนวนมากไม่มีให้ คือนักลงทุนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองได้ 100% และนำกำไรทั้งหมดกลับประเทศได้ ตราบใดที่กัมพูชายังคงรักษาเสถียรภาพทางการเมือง เสถียรภาพมหภาค แรงงานหนุ่ม - สาวที่มีความสามารถ และโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงท่าเรือน้ำลึกในจังหวัดพระสีหนุ สนามบินนานาชาติ และกฎหมายการลงทุนที่น่าดึงดูดใจ ผมยังคงมองในแง่ดีว่ากัมพูชาจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดใจสำหรับการลงทุนในทุกภาคส่วนจากนักลงทุนทุกสัญชาติ” Vichet กล่าว

ก่อนหน้านี้ Kim Huort ผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระตะบอง ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย กล่าวว่า สินค้าส่งออกของกัมพูชาส่วนใหญ่ไปยังไทยเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด มะม่วง พริกไทย และถั่ว ส่วนสินค้านำเข้าจากไทย ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกลการเกษตร อาหาร เครื่องเทศ เครื่องดื่ม และผลไม้

Khiev Thy ประธานสมาคมมัคคุเทศก์เขมร-อังกอร์ (KATGA) กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวนั้นเปราะบางที่สุดเมื่อเกิดความขัดแย้งด้วยอาวุธ จึงปรารถนาที่จะเห็นกัมพูชาคงเสถียรภาพทางการเมืองและพัฒนาต่อไปในทุกภาคส่วน เนื่องจากประเทศนี้มีศักยภาพอย่างมากในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชาที่จะใช้กลไกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เนื่องจากกัมพูชามีเอกสารที่ถูกต้องและใช้แผนที่ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ในพื้นที่ที่มีสงครามจะไม่มีนักท่องเที่ยว

ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยว กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคนในปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.9 เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด โดยมีเกือบ 2.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9 ขณะที่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.84 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 ในจำนวนนี้ 500,000 คนเป็นชาวไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5

ขอบคุณภาพจาก ICJ

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.phnompenhpost.com/business/pundits-confident-cambodian-thai-trade-relations-will-continue-as-normal

043...

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ ยันประชุมJBCไม่เจรจาพื้นที่4จุดไปศาลโลกเท่านั้น รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ ยันประชุมJBCไม่เจรจาพื้นที่4จุดไปศาลโลกเท่านั้น
  • มติเอกฉันท์! สภากัมพูชาเห็นชอบให้\'ฮุน มาเนต\'ยื่นฟ้องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาต่อศาลโลก มติเอกฉันท์! สภากัมพูชาเห็นชอบให้'ฮุน มาเนต'ยื่นฟ้องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาต่อศาลโลก
  • ‘ดูเตอร์เต’อดีตผู้นำปินส์ชนะเลือกตั้งท้องถิ่น แม้ถูกคุมตัวตามหมายจับศาลโลก ‘ดูเตอร์เต’อดีตผู้นำปินส์ชนะเลือกตั้งท้องถิ่น แม้ถูกคุมตัวตามหมายจับศาลโลก
  • ‘กกต.ปินส์’เผยแม้‘ดูเตอร์เต’ถูกคุมตัว แต่ยังมีชื่อให้ผู้สนับสนุนลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรีได้ ‘กกต.ปินส์’เผยแม้‘ดูเตอร์เต’ถูกคุมตัว แต่ยังมีชื่อให้ผู้สนับสนุนลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรีได้
  • รวบ’ดูเตอร์เต’อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ตามหมายจับศาลโลกคดี‘สงครามยาเสพติด’ รวบ’ดูเตอร์เต’อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ตามหมายจับศาลโลกคดี‘สงครามยาเสพติด’
  • จีนขึ้นให้การศาลโลก  กรณีอิสราเอลยึดดินแดนปาเลสไตน์ จีนขึ้นให้การศาลโลก กรณีอิสราเอลยึดดินแดนปาเลสไตน์
  •  

Breaking News

‘เชฟเตย’เข้ารับมอบเงินรางวัลแชมป์ MasterChef The Professionals Thailand

แฉการเมืองแทรก!‘หมอตุลย์’หอบ 5 หมื่นชื่อหนุนมติ‘แพทยสภา’ ร้อง 3 ข้อปลุกวิญญาณหมอ

WeTV ส่ง ‘ปรปักษ์จำนน’ ขึ้นแท่นซีรีส์จีนอันดับ 1 แห่งปี เปิดตัวแรงทะลุเทรนด์ทุกแพลตฟอร์ม

ป่าตรงนั้นคือแผ่นดินไทย! 'ชัยวัฒน์'เปิดภาพจับแก๊งลอบตัดไม้พะยูง ติดคุกในไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved