12 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ลอสแอนเจลิสได้ยกเลิกเคอร์ฟิวในคืนแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) ขณะที่หลายเมืองในสหรัฐฯ เตรียมรับมือกับการประท้วงเพิ่มเติม

ขณะนี้มีผู้ถูกจับกุมแล้วเกือบ 400 คน ซึ่ง 330 คนที่เป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย และ 157 คนที่ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายและขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงหนึ่งคนที่ถูกจับในข้อหาพยายามฆ่าตำรวจ

อัยการรัฐบาลกลางได้ตั้งข้อหาผู้ชายสองคนที่โยนระเบิดขวดใส่ตำรวจ ขณะที่กองกำลังรักษาดินแดน รวม 4,000 นาย และนาวิกโยธิน 700 นาย ถูกส่งไปช่วยควบคุมสถานการณ์ โดยกำลังพลกองกำลังรักษาดินแดนบางส่วนได้รับอนุญาตให้ควบคุมตัวผู้คนไว้ชั่วคราวจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมได้

ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกเทศมนตรีจาก 30 เขตในวันพุธที่ผ่านมา แคเรน แบส นายกเทศมนตรีLA กล่าวว่า การประท้วงเกิดขึ้นจากการบุกจับผู้อพยพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเธอกล่าวว่าเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความกลัวและตื่นตระหนก

น.ส.บาส แสดงความเห็นว่า LA กำลังเป็น ส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศเพื่อดูว่ารัฐบาลกลางจะสามารถเข้าควบคุมอำนาจจากรัฐบาลท้องถิ่น หรือจากเขตอำนาจท้องถิ่นได้ไกลแค่ไหน

โดยเธอเคยเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการบุกจับผู้อพยพ

ในคืนวันอังคารถึงวันพุธ ตำรวจ LA กล่าวว่าได้มีการจับกุมครั้งใหญ่ หลังจากการประท้วงวันที่ 5 เกี่ยวกับการบุกจับผู้อพยพ

จากชุดแถลงการณ์ของกรมตำรวจเมืองระบุว่า ผู้ถูกควบคุมตัวประกอบด้วย:

-203 คน ถูกจับกุมในข้อหาไม่ยอมสลายการชุมนุม
-17 คน ถูกจับกุมในข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
- 3 คน ถูกจับกุมในข้อหาครอบครองอาวุธปืน
- 1 คน ถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาวุธร้ายแรง

แถลงการณ์ยังเสริมอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน

ในวันอังคาร (10 มิ.ย. ) ที่ผ่านมา น.ส. แบส ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ขนาดเล็กในย่านใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส โดยกล่าวว่ามีการทำลายทรัพย์สินและการปล้นสะดม

เมื่อเคอร์ฟิวใน LA เริ่มขึ้นในเวลา 20:00 ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลื่อนกำลังเข้าสู่ย่านใจกลางเมือง และยิงกระสุนยางเพื่อพยายามสลายฝูงชน

ในการอธิบายถึงเคอร์ฟิวเมื่อวันอังคาร (10 มิ.ย.) น.ส. แบส กล่าวว่าเธอต้องการหยุดการก่อกวน หยุดการปล้นสะดม โดยระบุว่าเมืองได้มาถึงจุดวิกฤตแล้ว

คำสั่งเคอร์ฟิวนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ตารางไมล์ในเมืองใหญ่อันดับสองของสหรัฐอเมริกา

จิม แม็กดอนเนล หัวหน้าตำรวจ กล่าวว่า "ภาพบางส่วนของการประท้วงและความรุนแรงทำให้ดูเหมือนว่านี่เป็นวิกฤตการณ์ทั่วทั้งเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่"

ทรัมป์ได้ตั้งเป้าหมายให้เจ้าหน้าที่ชายแดนจับกุมอย่างน้อย 3,000 คนต่อวัน ในความพยายามที่จะเร่งรัดการเนรเทศครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาสำคัญในการรณรงค์หาเสียงเพื่อการเลือกตั้งใหม่ของเขา นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีได้ลดการลักลอบข้ามพรมแดนบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกลงอย่างมากจนถึงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ผลสำรวจความคิดเห็นของ CBS News/YouGov ที่จัดทำขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ก่อนที่การประท้วงจะเริ่มต้นขึ้น พบว่า 54% ของชาวอเมริกันกล่าวว่าพวกเขาอนุมัตินโยบายการเนรเทศของทรัมป์ และ 50% อนุมัติวิธีการจัดการปัญหาคนเข้าเมืองของเขา ซึ่งเปรียบเทียบกับตัวเลขที่น้อยกว่าคือ 42% ที่อนุมัตินโยบายเศรษฐกิจของเขา และ 39% สำหรับนโยบายการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ

ขอบคุณข้อมูลจาก : BBC