12 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยูเครนได้ส่งร่างทหาร 1,212 นายที่เสียชีวิตจากสงครามกับรัสเซียกลับบ้านแล้ว 

นายวลาดิมีร์ เมดินสกี ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ยูเครนได้ส่งร่างทหารรัสเซียกลับไปแล้ว 27 ราย

คณะกรรมการประสานงานการแลกเปลี่ยนนักโทษเคียฟ กล่าวผ่าน Telegramว่า "จากการดำเนินการส่งคืนร่างทหารกลับ ร่างของผู้ปกป้องที่เสียชีวิตจำนวน 1,212 รายได้ถูกส่งคืนให้ยูเครน"

คณะกรรมการได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากสถานที่หนึ่งที่แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เดินผ่านรถบรรทุกแช่แข็งหลายคัน โดยรถบรรทุกบางคันมีตราสัญลักษณ์ของ "On the Shield" ซึ่งเป็นองค์กรของยูเครนที่มีส่วนร่วมในการกู้คืนและเคลื่อนย้ายร่างทหารผู้เสียชีวิต

ยูเครนและรัสเซียได้บรรลุข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนศพทหารที่เสียชีวิตในการเจรจารอบล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าในขั้นตอนการดำเนินการจะเกิดข้อขัดแย้ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายเมดินสกี กล่าวว่า ยูเครนได้เลื่อนการรับศพทหาร 1,212 รายที่ต้องการส่งกลับ รัฐบาลรัสเซียกล่าวว่า รถบรรทุกตู้เย็นบรรทุกศพทหารรัสเซียรออยู่ที่ชายแดนเป็นเวลา 5 วันก่อนที่ยูเครนจะยอมรับ

หน่วยงานประสานงานของยูเครนเผยว่าได้บรรลุข้อตกลงในการส่งร่างทหารกลับแล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดวันสุดท้ายที่แน่ชัด และกล่าวหารัสเซียว่าดำเนินการฝ่ายเดียวและไม่ประสานงาน 

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่ารัสเซียต้องการส่งคืนร่าง 6,000 ศพกลับยูเครน แต่มีเพียงประมาณ 15% เท่านั้นที่ได้รับการระบุตัวตน

ร่างทหาร 1,212 รายจะถูกส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงมหาดไทยของยูเครน หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะพยายามตรวจสอบตัวตนของพวกเขาให้เร็วที่สุด

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา รัสเซียและยูเครนได้แลกเปลี่ยนนักโทษสงครามที่อายุต่ำกว่า 25 ปี และนักโทษสงครามที่บาดเจ็บสาหัสและป่วยหนักเมื่อวันอังคาร ในฉากการกลับบ้านที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนครั้งแรกในชุดการแลกเปลี่ยนที่วางแผนไว้ ซึ่งอาจกลายเป็นการแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในสงครามที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียในปี 2022

นายเมดินสกีกล่าวว่า รัสเซียและยูเครนจะมีการแลกเปลี่ยนนักโทษสงครามที่บาดเจ็บสาหัสและป่วยหนักเพิ่มเติมในวันพฤหัสบดี ในขณะเดียวกัน การสู้รบยังคงดำเนินต่อไป โดยรัสเซียกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า กองกำลังของตนได้เข้าควบคุมพื้นที่เพิ่มเติมในภูมิภาค Dnipropetrovsk ทางตะวันออกตอนกลางของยูเครน และเคียฟกล่าวว่ามอสโกได้เปิดฉากการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในสงครามนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก : Reuters