‘ฮุน มาเนต’สั่งปิดด่านชายแดนเพิ่ม ตอบโต้ไทยปิด‘ช่องสายตะกู’
22 มิถุนายน 2568 พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ กรณีไทยออกมาตรการ “ปิดด่าน” จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์” ระบุว่า...
มื่อคืนที่ผ่านมา (วันที่ 2 มิถุนายน1) ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด Oddar Meanchey ได้รายงานให้ผมทราบว่า หมู่บ้านทหารภาค 2 ของกองทัพไทย เพิ่งออกหนังสือแจ้งว่า ทางฝั่งไทยจะปิดประตู Say Taku-Jobkkir ในเขต Banteay Ompil, Oddar Mean จังหวัดเชย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
อนุมัติให้ ท่านผู้ว่าฯ ก.พ. ปิดประตูนี้ในกัมพูชาถาวรครับ
นอกจากประตูนี้แล้ว ผมสั่งให้ท่านผู้ว่าฯ ปิดประตูอีกประตูหนึ่ง ประตูชายแดนดํา อ.อันหลงเวง จ.อุดารมีนเชย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และแจ้งทางฝั่งไทยด้วย
ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2025 กองทัพไทยได้ใช้มาตรการปิดชายแดนและปรับเปลี่ยนเวลาปิด-เปิดประตูชายแดนระหว่างสองประเทศ โดยไม่คิดถึงผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
กัมพูชาไม่เคยมีเจตนาที่จะสร้างความลําบากแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศที่อาศัยอยู่ในหรือเดินทางผ่านประตูชายแดน แต่กองทัพไทยยังใช้วิธีนี้โทษกัมพูชา เขมรอยู่กับเราเสมอ
เป็นเรื่องแปลกที่ผู้นําการเมืองไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรีไทย มักจะขอเจรจาเปิดขอบเขต เพื่อคืนความปกติ แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพไทยยังคงปิดประตู หรือปรับเวลาปิดประตู ตามที่ตนต้องการเป็นฝ่ายเดียว
ไม่รู้ว่าเป็นวิธีการหรือกลยุทธ์ในการทํางานระหว่างรัฐบาลไทยกับกองทัพไทย เพราะดูเหมือนจะไม่มีข้อตกลงภายในและหลักการที่ชัดเจน คนหนึ่งขอให้การเจรจาต่อรองทวิภาคีเพื่อเปิดประตูสู่ความปกติอีกครั้ง ในขณะที่อีกคนยังคงปิดประตูอย่างเดียว
สําหรับกัมพูชา เราได้รับการสนับสนุนจากผู้นําประเทศสู่กองทัพแนวหน้า ถ้านายกฯ สั่งอะไรมา ทุกสถาบันชาติและชาติ รวมทั้งกองทัพบก ให้ใช้คําสั่งนั้นเป็นสิบคํา
เกี่ยวกับการเปิดประตูชายแดนระหว่างกัมพูชาและ ประเทศไทย ขอย้ำว่ากัมพูชายังคงจุดยืนเดิมว่าไม่จําเป็นต้องเจรจาต่อรองทวิภาคีในการเปิดชายแดนระหว่างสองประเทศ
ถ้าฝั่งไทยต้องการเปิดประตูสู่ความปกติจริง ๆ ก็ทําได้ง่ายและรวดเร็ว กองทัพไทย ที่ปิดประตูทางเดียวเป็นคนแรก ต้องเปิดประตูทางเดียวอีกครั้ง เพราะก่อนวันที่ 7 มิถุนายน 2025 กัมพูชาจะเปิดให้บริการอีกครั้งในอีกห้าชั่วโมง นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายมาก โดยไม่ต้องต่อรองหรือเสียเวลา ต้องการเพียงจุดยืนของความต้องการจากฝั่งไทย
เมื่อคืนวันที่ 21 มิถุนายน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดร มีนเชย รายงานผมว่า ทหารภาค 2 ของกองทัพไทย ได้แจ้งการตัดสินใจของ UNILATERAL ปิดด่านพรมแดนชุบกอคี ตั้งแต่วันนี้
เห็นด้วยกับการตอบรับของผู้ว่าฯ ว่าเราจะปิดด่านพรมแดนอย่างถาวร ยังสั่งให้ผู้ว่าฯแจ้งฝั่งไทยด้วยว่า กัมพูชาก็ตัดสินใจปิดอีกด่านที่ชอัม รวมทั้งด่านชุบกอร์กี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นับตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2025 กองทัพไทยได้ทําการปิดด่านพรมแดนระหว่างกัมพูชาและ ประเทศไทย โดยไม่คํานึงถึงผลกระทบเชิงลบต่อประชาชนทั้งสองประเทศมากนัก
ไม่เคยเป็นเจตนาของกัมพูชาที่จะสร้างความยากลําบากให้กับคนทั้ง 2 ประเทศที่ต้องใช้ด่านพรมแดน ถึงกระนั้น ถ้ากองทัพไทยยังใช้วิธีนี้ในการกดดันกัมพูชา กัมพูชาตอบได้ตลอดเวลา
แปลกที่ผู้นําการเมืองไทยรวมถึงนายกฯ ได้ร้องขอเจรจาทวิภาคีเปิดด่านพรมแดนซ้ำซ้อน กองทัพไทยยังคงปิดหรือเปลี่ยนเวลาปิดด่านพรมแดน
ไม่แน่ใจว่านี่เป็นยุทธวิธีหรือกลยุทธ์ความสัมพันธ์การทํางานระหว่างรัฐบาลไทยกับกองทัพไทย เพราะดูเหมือนว่าขาดความเห็นชอบและความชัดเจนในวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเกี่ยวกับการปิดชายแดน พรรคหนึ่งต้องการเจรจาทวิภาคีเปิดจุดตรวจชายแดนอีกครั้ง และกลับสู่สภาวะปกติ ส่วนอีกฝ่าย คือ ทบ.ไทย ยังคงเดินหน้าต่อจุดตรวจชายแดนปิดชายแดน
สําหรับกัมพูชา เรามักจะมีความเห็นตั้งแต่การเป็นผู้นําสูงสุดของรัฐบาลสู่กองกําลังบนพื้นดิน เมื่อนายกรัฐมนตรีออกคําสั่ง หน่วยงานทั้งในระดับประเทศ และกองทัพก็ดําเนินการตามนั้น
ด้วยการเปิดด่านพรมแดนระหว่างกัมพูชาและ ประเทศไทย ผมขอย้ำจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชา : ไม่จําเป็นต้องเจรจาต่อรองทวิภาคีเกี่ยวกับการเปิดด่านพรมแดนอีกครั้ง
หากฝั่งไทยต้องการให้ด่านพรมแดนของเรา กลับมาปฏิบัติงานตามปกติอย่างแท้จริง ก็สามารถทําได้ง่ายและรวดเร็ว กองทัพไทยที่เริ่มปิดด่านพรมแดน 7 มิถุนายน 2025 เพียงแค่ต้องเปิดใหม่อย่างเดียวก่อนให้เหมือนเดิมในวันนั้น กัมพูชาจะเปิดด่านตรวจทั้งหมดในด้านข้างของเราอีกครั้งหลังจากนั้น 5 ชั่วโมง วิธีแก้ปัญหาที่ง่าย ๆ สามารถทําได้ง่ายและรวดเร็วโดยไม่ต้องมีการเจรจาต่อรองทวิภาคีใด ๆ ทั้งหมดที่ต้องการคือความปรารถนาที่แท้จริงและซื่อสัตย์ที่จะเปิดด่านพรมแดนโดยฝั่งไทยอีกครั้ง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี