25 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่าจีนสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไปได้ และเรียกร้องให้จีนซื้อน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ หลังจากที่อิสราเอลและอิหร่านตกลงหยุดยิง ซึ่งทำเนียบขาวชี้แจงว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้บ่งชี้ถึงการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในโพสต์ทางทรูธ โซเชียล ว่า "ขณะนี้จีนสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไปได้ หวังว่าพวกเขาจะซื้อน้ำมันจากสหรัฐฯ ในปริมาณมากเช่นกัน" เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขาสั่งให้สหรัฐฯ โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวกล่าวว่า ทรัมป์กำลังดึงความสนใจไปที่ความพยายามของอิหร่านที่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซ เพื่อขัดขวางเรือบรรทุกน้ำมันจนถึงขณะนี้ เนื่องจากการปิดช่องแคบดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านรายใหญ่ที่สุดของโลก "ประธานาธิบดียังคงเรียกร้องให้จีนและประเทศต่างๆ นำเข้าน้ำมันที่ทันสมัยของเรา แทนที่จะนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ"
หลังจากประกาศหยุดยิง ความเห็นของทรัมป์เกี่ยวกับจีนก็ถือเป็นสัญญาณขาลงอีกครั้งสำหรับราคาน้ำมัน ซึ่งร่วงลงเกือบ 6% ในวันอังคาร (24 มิย.) การผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านใดๆ ก็ตาม ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ หลังจากที่ทรัมป์กล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่าเขาจะกดดันอิหร่านอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันการส่งออกน้ำมันให้เหลือศูนย์ เนื่องจากโครงการนิวเคลียร์และการให้ทุนสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง
ทรัมป์ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน กับโรงกลั่นน้ำมันและผู้ประกอบการท่าเรืออิสระหลายแห่งของจีน สำหรับการซื้อน้ำมันจากอิหร่าน
สก็อตต์ โมเดลล์ อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Rapidan Energy Group กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดไฟเขียวให้จีนซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไป สะท้อนให้เห็นถึงการกลับมาใช้มาตรฐานการบังคับใช้ที่ผ่อนปรน
นอกจากจะไม่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรแล้ว ทรัมป์ยังสามารถระงับหรือยกเว้นมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดโดยคำสั่งฝ่ายบริหารหรือภายใต้การอนุมัติของประธานาธิบดีในกฎหมายที่ผ่านโดยรัฐสภาได้
นายโมเดลล์กล่าวว่า ทรัมป์อาจจะไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรก่อนการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านรอบหน้า มาตรการดังกล่าวให้ประโยชน์แก่อิหร่าน เนื่องจากอิหร่านเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าวอย่างถาวร
นายเจเรมี ปาเนอร์ หุ้นส่วนบริษัทกฎหมายฮิวจ์ ฮับบาร์ด แอนด์ รีด กล่าวว่า หากทรัมป์เลือกที่จะระงับมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันอิหร่าน หน่วยงานต่างๆ จะต้องทำงานร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะต้องออกใบอนุญาต และกระทรวงการต่างประเทศจะต้องออกการยกเว้น ซึ่งต้องแจ้งให้รัฐสภาทราบ
ผู้ค้าน้ำมันและนักวิเคราะห์ในเอเชียกล่าวว่าพวกเขาไม่คาดว่าความคิดเห็นของทรัมป์จะมีผลกระทบในระยะใกล้ต่อการซื้อน้ำมันของจีนจากอิหร่านหรือสหรัฐฯ น้ำมันอิหร่านคิดเป็นประมาณ 13.6% ของการซื้อน้ำมันของจีนในปีนี้ โดยราคาน้ำมันที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้โรงกลั่นน้ำมันอิสระที่กำไรลดลงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง น้ำมันของสหรัฐฯ คิดเป็นเพียง 2% ของการนำเข้าของจีน และการเก็บภาษีน้ำมันของสหรัฐฯ 10% ต่อจีน ทำให้จีนไม่กล้าซื้อเพิ่ม
จีนคัดค้านสิ่งที่เรียกว่า "การใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ผิดกฎหมาย" ของสหรัฐฯ มาเป็นเวลานานแล้ว กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อวันพุธว่า จีนจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยด้านพลังงานที่เหมาะสมตามผลประโยชน์ของชาติ
การซื้อน้ำมันจากอิหร่านในปริมาณมากขึ้นโดยจีนและผู้บริโภครายอื่นอาจส่งผลกระทบต่อพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อการส่งออกของอิหร่านนั้นมีจำกัดตั้งแต่รัฐบาลชุดแรกของทรัมป์ เมื่อเขาใช้มาตรการคว่ำบาตรเตหะรานอย่างหนักขึ้น
แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณถึงสิ่งที่เขาต้องการให้เกิดขึ้น และรัฐบาลของเขามุ่งเน้นที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น เธอจะไม่เปิดเผยว่ากระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง
ขอบคุณข้อมูล : Trump says China can buy Iranian oil, but urges it to purchase US crude
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี