29 มิถุนายน 2568 สำนักข่าว Khmer Times รายงานว่า นายเนธ พักตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ได้เรียกร้องให้ประชาชนชาวกัมพูชาไว้วางใจในการดำเนินการอันเด็ดขาดของ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย กรณียื่นเรื่องพิพาทพื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกตหรือช่องบก เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อหาทางออกที่ยุติธรรมและยั่งยืน

"ในกรณีข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วในมาตรการทางกฎหมาย การทูต และการทหาร เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาจากการรุกราน หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เมื่อทหารไทยซุ่มโจมตีและเปิดฉากยิง ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นายในดินแดนกัมพูชา" รมว. เนธ กล่าว

เขากล่าวเสริมว่า บทบาทของพรรคประชาชนกัมพูชาคือการรับผิดชอบต่อประชาชน และป้องกันการรุกรานจากต่างชาติเข้ามายึดครองดินแดนแม้เพียงมิลลิเมตรเดียว โดยย้ำถึงคำมั่นสัญญาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน ประธานพรรคฯ ในการต่อต้านการรุกรานใดๆ ต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา

"เราต้องการเพื่อน แต่พวกเขาไม่ละทิ้งความคิดที่จะรุกรานและต้องการดินแดนกัมพูชา ดังนั้น ชาวกัมพูชาที่รักสันติภาพและปกป้องสันติภาพจะต้องเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อสนับสนุนและปกป้องดินแดนของพวกเขา" รมว. เนธ กล่าวอย่างหนักแน่น

ทั้งนี้ กัมพูชาเคยยื่นข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตกับไทยต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมาแล้ว 2 ครั้งและประสบความสำเร็จทั้งสองครั้ง ได้แก่ ในปี พ.ศ. 2505 และ พ.ศ. 2556 ซึ่งเกี่ยวข้องกับปราสาทพระวิหารและดินแดนโดยรอบ จากการฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในครั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นเพื่อดำเนินคดีดังกล่าว

ที่มา www.khmertimeskh.com