2 กรกฎาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษ ทรงมีพระราชวินิจฉัยให้ปลดประจำการ 'รถไฟหลวง' (The Royal Train) ภายในปี 2570 ภายใต้นโยบายประหยัดงบประมาณและปรับปรุงการบริหารราชสำนักให้เข้ากับยุคสมัย โดยให้ทางสมาชิกราชวงศ์หันไปใช้การเดินทางแบบอื่นที่สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า 

'รถไฟหลวง' มีมามากกว่า 156 ปี มีมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ซึ่งทรงเริ่มใช้รถไฟหลวงตั้งแต่ปี ค.ศ. 1869 และรถไฟหลวงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งพระราชอำนาจและความต่อเนื่องของสถาบันกษัตริย์อังกฤษ ขบวนรถไฟประกอบด้วยตู้โดยสาร 9 คัน ซึ่งต้องอาศัยหัวรถจักรจากระบบขนส่งพาณิชย์ในการลากจูง โดยแต่ละคันได้รับการออกแบบให้สมพระเกียรติสำหรับการเสด็จฯ

เจมส์ ชาลเมอร์ส ข้าราชบริพารผู้ดูแลพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เปิดเผยระหว่างการแถลงบัญชีรายรับรายจ่ายประจำปีของราชวงศ์อังกฤษว่า ขณะที่อังกฤษกำลังก้าวไปข้างหน้าไม่ควรยึดติดกับอดีต โดยรถไฟหลวงเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันเป็นที่รัก แต่ถึงเวลาแล้วที่จะกล่าวอำลาด้วยความรับผิดชอบต่อการจัดสรรงบประมาณอย่างรอบคอบและมองไปข้างหน้า

ต่อมาทางด้านบัญชีงบประมาณเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา รถไฟหลวงถูกใช้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ได้แก่การเดินทางจากกลอสเตอร์เชอร์ ไปยังสแตฟฟอร์ดเชอร์ และลอนดอน รวมระยะทางสองวันแต่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 44,000 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 2.02 ล้านบาท ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับภาระค่าบำรุงรักษา'รถไฟหลวง'

ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่ามีสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษบางพระองค์ เช่น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคท ก็เคยทรงโดยสารรถไฟโดยสารสาธารณะเพื่อปฏิบัติภารกิจในบางครั้ง สะท้อนถึงการปรับตัวให้ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น นอกจากนี้มักมีผู้พบเจ้าชายแฮร์รี โดยสารรถไฟด่วนพิเศษ ระหว่างลอนดอนกับเบอร์มิงแฮมหรือเมืองต่างๆ ทางเหนือ โดยไม่มีการปิดขบวนหรือขอพื้นที่พิเศษใดๆ อีกด้วย