สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานที่ในกัมพูชา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ประกอบด้วยเรือนจำ 2 แห่ง และทุ่งสังหารที่มีผู้ถูกประหารชีวิตหลายพันคน
พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวผ่านวิดีโอที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ “ทีวีเค” เนื่องในโอกาสการขึ้นทะเบียนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคเขมรแดงเข้าสู่บัญชีมรดกโลก โดยย้ำว่า การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ควรเป็น “เครื่องเตือนใจอันยั่งยืนว่า สันติภาพต้องได้รับการปกป้องเสมอ”
สองสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนใหม่และตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คุกตวลสเลง หรือเรือนจำ “เอส-21” ซึ่งเดิมเคยเป็นโรงเรียนมัธยม ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่คุมขังและทรมานผู้คนกว่า 15,000 รายในช่วงระบอบเขมรแดง และ “ทุ่งสังหารเจืองเอ็ก” ที่เคยเป็นสุสานชาวจีน ก่อนจะถูกใช้เป็นสถานที่ประหารชีวิตนักโทษจากเอส-21
นอกจากนี้ ยังมีเรือนจำ “เอ็ม-13” ในจังหวัดกำปงชนัง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทและเคยเป็นหนึ่งในสถานกักขังสำคัญในยุคแรกของเขมรแดง แม้ในปัจจุบันจะเหลือเพียงพื้นที่รกร้าง แต่ยังคงปรากฏร่องรอยหลุมคุมขังนักโทษจากยุคนั้น
จากข้อมูลที่กัมพูชายื่นต่อองค์การยูเนสโก สถานที่เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการที่เขมรแดง “คิดค้น” และ “ทดสอบ” วิธีการสอบสวน ทรมาน และสังหารอย่างโหดร้าย ซึ่งเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรถูกลืม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี