9 กันยายน 2568 เฟซบุ๊กส่วนตัวของ'ฮุน มาเนต' นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวถึงประเด็น สถานการณ์ไทย-กัมพูชาเวลานี้ ดูเหมือนจะเกิดข้อสงสัยในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชา ว่าทำไมรัฐบาลของตัวเองไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว และกลายเป็นความเคลือบแคลงสงสัยว่า กัมพูชาได้ถอนกำลังมาจากแนวหน้าแล้วหรือ? โดยระบุข้อความว่า  ... 

เนื่องจากมีการพูดคุยกันอย่างมากบนโซเชียลมีเดียในช่วงนี้ในบางหัวข้อ รวมถึงการตั้งคำถามที่สร้างความสับสน จนทำให้บางคนหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ผมขอใช้โอกาสนี้อธิบายสั้นๆ”

1. ทำไมรัฐบาลจึงนิ่งเฉย? บางท่านอาจคิดว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยก็ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีหรือบุคคลสำคัญเผยแพร่ข่าวสารทางโทรทัศน์หรือโซเชียลมีเดียเป็นประจำ ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความไม่แน่นอน การทำให้ข้อมูลมีความสอดคล้องกันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความสับสนในจิตใจของประชาชน ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงได้จัดเตรียมกลไกและมอบหมายให้คณะโฆษกซึ่งประกอบด้วยโฆษกของรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอนอกจากนี้ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงข้อมูลข่าวสาร สำนักงานปลัดกระทรวงกิจการชายแดน ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ยังได้เผยแพร่มาตรการสำคัญต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ

2.รัฐบาลได้สั่งให้กองกำลังแนวหน้าในสนามรบถอนกำลังหลังจากการเจรจาหยุดยิงหรือไม่? คำตอบสั้น ๆ คือ ไม่ รัฐบาลไม่ได้สั่งถอนกำลังทหารหลังการเจรจาหยุดยิง และในการเจรจาหยุดยิงนั้นไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอนกำลังออกจากตำแหน่ง

3.การเจรจาก่อนหน้านี้เชื่อมโยงกับการแลกเปลี่ยนดินแดนหรือไม่? คำตอบสั้น ๆ คือ ไม่ การเจรจาหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ประเทศมาเลเซียพูดถึงเฉพาะเรื่องการหยุดยิงเท่านั้น การเจรจาทวิภาคีก่อนหน้านี้ รวมถึงการประชุมพิเศษว่าด้วยเขตแดนร่วม (GBC) ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและการประชุมว่าด้วยชายแดนภูมิภาค (RBC) ไม่ได้พูดถึงการกำหนดเขตแดน ผลการประชุมทั้งหมด ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่มีการปกปิด และไม่มีการเจรจาลับอื่น ๆ นอกเหนือจากการประชุมเหล่านั้น ในส่วนของการเจรจาชายแดน กัมพูชายังคงยึดมั่นในจุดยืนในการแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติ โดยใช้กลไกชายแดนที่มีอยู่ คือ คณะกรรมาธิการชายแดนร่วม (JBC) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความตกลงที่มีอยู่ระหว่างกัมพูชาและไทย สนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง และกฎหมายระหว่างประเทศ

4.รัฐบาลและกระทรวงกลาโหมไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใดๆ แก่กำลังพลแนวหน้า และมีเพียงผู้มีน้ำใจเท่านั้นที่ให้ความช่วยเหลือ คำตอบสั้น ๆ รัฐบาลไม่เคยละทิ้งความรับผิดชอบต่อทหารกล้า ตำรวจแห่งชาติผู้กล้าหาญ และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบหรือการละเมิดอื่น ๆ โปรดเข้าใจว่ากระทรวงและหน่วยงานของรัฐไม่ได้บันทึกหรือเผยแพร่รายงานสาธารณะเกี่ยวกับงานทั้งหมดเพื่อประกันและจัดหาเสบียงให้แก่กำลังพลแนวหน้า ซึ่งอาจทำให้บางคนเข้าใจผิดว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับกำลังพลแนวหน้า

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับกำลังพลแนวหน้าและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดนอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงกำลังพลและประชาชนทั่วประเทศและทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องด้วย

ขณะเดียวกัน ผมขอขอบคุณพลเมืองกัมพูชาทุกท่านที่รักชาติและสนับสนุนกองกำลังแนวหน้าของเราด้วยการมอบอาหาร เสบียง และยุทโธปกรณ์ให้แก่กองกำลังแนวหน้าของเรา นอกเหนือจากสิ่งที่รัฐบาลได้มอบให้ รัฐบาลกัมพูชายินดีต้อนรับจิตวิญญาณแห่งความสามัคคีของชาวกัมพูชาที่ช่วยเหลือมาโดยตลอด นับตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดการสู้รบ นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่เราต้องสามัคคีและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ผมหวังว่าการชี้แจงสั้นๆ เกี่ยวกับประเด็นข้างต้นจะช่วยคลี่คลายข้อสงสัยบางประการที่ผมพบเห็นในโซเชียลมีเดียได้

ดังนั้น ผมจึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่าน ให้ไว้วางใจรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งได้ทำงานอย่างแข็งขันเพื่อหาทางออกเพื่อยุติปัญหาอย่างรวดเร็วเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แม้ว่าภารกิจหลายอย่างจะยังไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งดูเหมือนจะเงียบเกินไป