1 ตุลาคม 2568  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อตอบโต้ถ้อยแถลงของ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากที่ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 

โดยมีข้อความตอนหนึ่งที่พูดถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่พรมแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายสีหศักดิ์กล่าวว่า "เราทราบดีว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่ต้องสูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กนักเรียนที่โรงเรียนถูกยิงถล่มด้วยกระสุนปืนใหญ่ และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำซึ่งถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา"  ทางกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา ระบุข้อความว่า 

1.ใครเป็นคนเริ่มยิงก่อนที่ทำให้ทหารกัมพูชา 1 นายต้องสละชีวิตที่บริเวณช่องบก

2.ใครเป็นคนปิดพรมแดนฝ่ายเดียว

3.ใครเป็นคนรื้อถอนรั้วลวดหนามและแนวกั้นที่ปราสาทตาเมือนธม

4.ใครเป็นคนเปิดฉากโจมตีใส่กองทัพกัมพูชา จนนำไปสู่การต่อสู้นาน 5 วัน 5 คืน

5.ใครเป็นคนละเมิดสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส และ MOU 2000

6.ใครเป็นคนที่ลังเลและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามาช่วยแก้ไขประเด็นที่เป็นความขัดแย้ง

7.ใครเป็นคนละเมิดข้อตกลงหยุดยิงด้วยการยั่วยุหลายครั้ง เช่น การจับกุมทหารกัมพูชาเป็นอย่างแรกที่ทำหลังข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับใช้ หรือขยายพื้นที่ความขัดแย้ง หรือเคลื่อนย้ายกำลังพลจนเหยียบทุ่นระเบิดที่ยังหลงเหลือไม่ได้ถูกเก็บกู้จากในอดีต

8.ใครเป็นคนละเมิดหลักการสากลอย่างโจ่งแจ้งด้วยการให้กองทัพตั้งรั้วลวดหนามและใช้เป็นเส้นแบ่งพรมแดน

9. ถ้าไทยเป็นฝ่ายถูกจริง หากไทยเป็นเหยื่อที่แท้จริง ทำไมไทยจึงกลัวการเข้าแทรกแซงของประชาคมระหว่างประเทศ หากไทยเป็นฝ่ายถูกจริงๆ ตั้งแต่ต้น ทำไมไทยจึงกลัวการขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) 

โดยสรุป ไม่ใช่แค่กัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้านของไทย แต่ทั้งโลกรู้นิสัยของไทยและเบื่อหนายกับไทย