6 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มที่เกิดขึ้นจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภูเขาทางตะวันออกของเมืองดาร์จีลิง (Darjeeling) ประเทศอินเดียทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 18 ราย หลังกระแสน้ำได้พัดพาบ้านเรือน ถนน และสะพานเสียหาย ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในประเทศเนปาล ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มขึ้นเป็น 50 ราย

เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดียกล่าวในวันจันทร์ว่า ยังคงมีผู้สูญหายอีกหลายราย ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการบรรเทาทุกข์และการฟื้นฟูแล้ว พร้อมเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เนื่องจากมีรายละเอียดทยอยเข้ามาจากพื้นที่ห่างไกล

นางมามาตา บาเนอร์จี มุขมนตรีของรัฐเบงกอลตะวันตกกล่าวผ่านทางบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า สะพานเหล็กสองแห่งพังถล่มลงมา ถนนหลายสายได้รับความเสียหายและมีน้ำท่วมขัง พื้นที่ถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เขตดาร์จีลิง กาลิมปง จัลไปกูรี และอาลิปุรดัวร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกชา

หัวหน้าศูนย์สภาพอากาศประจำภูมิภาคในเมืองโกลกาตา ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐนี้กล่าวว่า คาดว่าจะยังมีฝนตกเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่เกิดฝนตกหนัก "ระดับรุนแรงที่สุด" ในเมืองดาร์จีลิงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การจราจรบนทางหลวงไม่สามารถสัญจรได้เนื่องจากสะพานเหล็กบางส่วนที่พาดผ่านแม่น้ำบาลาซอน ซึ่งเชื่อมต่อเมืองซิลิกูรีในที่ราบกับเมืองมิริกในเขตภูเขา ได้พังถล่มลงมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และถนนหลายสายก็ทรุดตัวลง

เมืองดาร์จีลิง ซึ่งเป็นเขตพักตากอากาศบนเนินเขาในเทือกเขาหิมาลัย มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ชา และดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของยอดเขา "คันเชนจุงกา" (Mount Kanchenjunga) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสามของโลก โดยนางบาเนอร์จีได้ขอให้นักท่องเที่ยวอย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายไปไหนจนกว่าจะได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย

ส่วนในประเทศเนปาล ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มได้เพิ่มขึ้นเป็น 50 ราย โดย 37 รายมาจากการเกิดการณ์ดินถล่มหลายจุดในเขตอีลัมทางตะวันออก ซึ่งมีอาณาเขตติดกับอินเดีย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ขุดค้นดินโคลนและซากปรักหักพังในเขตดังกล่าวเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต ขณะเดียวกันก็เร่งเคลียร์ถนนที่ถูกปิดกั้น หลังจากดินถล่มได้พัดพาบ้านเรือนในหลายหมู่บ้านจนราบเป็นหน้ากลอง