สื่อกัมพูชาตีข่าว! คนเขมรไม่ย้ายออกจากบ้านหนองหญ้าแก้ว หลังครบเส้นตายไทยกำหนด

สื่อกัมพูชาตีข่าว! คนเขมรไม่ย้ายออกจากบ้านหนองหญ้าแก้ว หลังครบเส้นตายไทยกำหนด

วันพุธ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.37 น.

8 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กัมพูชาและไทยยังคงเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด หลังจากเส้นตายการอพยพออกจากชายแดนพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ได้สิ้นสุดลงแล้ว ยืนยันว่า แม้สิ้นสุดเส้นตายที่ทางการไทยกำหนดไว้ แต่ยังคงไม่มีการเคลื่อนย้ายพลเรือนจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ชาวบ้านได้ตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาไปยังพื้นที่ที่กองกำลังไทยยึดครอง พร้อมทั้งเสริมกำลังบ้านเรือนและประกาศต่อต้านการขับไล่

ทางการกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชา กล่าวว่า ได้ตัดสาธารณูปโภคในพื้นที่ที่กองกำลังไทยยึดครองโดยผิดกฎหมาย ขณะที่รัฐบาลไทยได้อนุญาตให้กองทัพขับไล่ชาวบ้านออกไป


ชาวบ้านกัมพูชาในหนองหญ้าแก้ว กล่าวว่า พวกเขาได้ดำเนินการเพื่อปกป้องบ้านเรือนและที่ดินของตน ตัดน้ำประปาไปยังบ้าน 6 หลังที่อยู่ภายใต้การยึดครองของไทย ชาวกัมพูชายังอ้างว่า พบเห็นโดรนลาดตระเวนเหนือหมู่บ้าน และกล่าวหาว่าเป็นการละเมิดน่านฟ้าของกัมพูชา

ปอฟ เฮือ วัย 57 ปี ชาวกัมพูชาในบ้านหนองหญ้าแก้ว กล่าวว่า ผมสร้างบังเกอร์แห่งนี้ขึ้นเพื่อปกป้องครอบครัวและตัวผมเองเพื่อเป็นการเตรียมพร้อม เราจะไม่ไปไหน เราต้องปกป้องบ้านและที่ดินของเราจากการถูกยึดครองโดยผิดกฎหมาย

ด้าน เซ็ง ซก ชาวบ้านอ้างว่าที่อาศัยอยู่มานานและบ้านถูกยึดครอง กล่าวว่า สถานการณ์นี้ร้ายแรงมาก ผมอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว กองทัพไทยได้อ้างสิทธิ์และยึดครองที่ดินของเราอย่างผิดกฎหมาย

ตอนนี้เรากลายเป็นคนไร้บ้าน เราขอความร่วมมือให้เข้าแทรกแซงเพื่อคืนบ้านเรือนและที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้นำกัมพูชา นับแต่นั้นมา เรานอนไม่หลับทั้งกลางวันและกลางคืน เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้ต่อไปเพื่อต่อต้านผู้รุกราน ผมคิดถึงอนาคตของครอบครัวมาก ผมออกจากหมู่บ้านนี้ไม่ได้ ผมต้องอยู่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รุกรานพยายามปล้นและขโมยดินแดนของเรา

ชาวกัมพูชาอ้างว่า การบุกรุกได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ทำให้หลายคนไม่สามารถทำงาน ทำธุรกิจ หรือทำกิจวัตรประจำวันได้ ชาวบ้านอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ชุมชนผลัดกันเฝ้าพื้นที่เพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่กองทัพไทยได้กำหนดเงื่อนไขให้กัมพูชาต้องมีแผนอพยพสำหรับชาวกัมพูชาในบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านตาพระยา จึงจะร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) นั้น

พลโทแซม อุน ผู้บัญชาการทหารภาคที่ 5 ของกัมพูชา ปฏิเสธข้อเสนอของไทย โดยกล่าวว่า เงื่อนไขดังกล่าวไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงที่บรรลุในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ณ จังหวัดเกาะกง เมื่อวันที่ 10 กันยายน 

ฝ่ายกัมพูชาย้ำว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วต้องได้รับการจัดการอย่างเคร่งครัดภายใต้กรอบกลไกที่ตกลงกันไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านคณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมกัน

แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมที่กองทัพไทยเผยแพร่ ซึ่งแสดงเส้นแบ่งเขตแดนที่วาดไว้ ระบุว่าพื้นที่บางส่วนของกัมพูชาในหมู่บ้านเปรยจัน ตำบลโอเปยฉาน อำเภอโอชรอฟ กำลังถูกยึดครองและใช้ประโยชน์บางส่วนโดยพลเมืองไทย

ทางการกัมพูชายืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาชายแดนในจังหวัดบันเตียเมียนเจยอย่างสันติ โดยเน้นย้ำว่าทุกประเด็นจะได้รับการจัดการผ่านการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC)

กองทัพบกกัมพูชายังปฏิเสธคำร้องขอจากกองทัพภาคที่ 1 ของกองทัพบกไทยในการจัดทำแผนการขับไล่พลเรือนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนที่มีข้อพิพาท ส่งผลให้การประชุม RBC ในจังหวัดบันเตียเมียนเจยที่เดิมจะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ต้องถูกเลื่อนออกไป

ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวว่า แม้ว่ากัมพูชาจะเป็นประเทศเล็กที่มีประชากรจำกัดและเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แต่ผู้นำยังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ต่อหลักการแห่งความรักสันติ การแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติ และปรารถนาให้มีพรมแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา และไม่ถือว่าประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศอื่นใดเป็นศัตรู

เรียบเรียงจาก : Khmer Times

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top