10 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าชาวเวียดนามแน่นเต็มหน้าร้านทองทุกพื้นที่ในกรุงฮานอย เพื่อรอซื้อขายทองคำทำกำไรในวันนี้ หลังจากราคาทองคำโลกทำสถิติสูงสุดทะลุออนซ์ละ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 130,464 บาท) เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้

ชายเวียดนามวัย 40 ปี ที่มาซื้อทองเชื่อว่า ตลาดทองคำจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่วุ่นวายในขณะนี้ได้ ราคาทองจะขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่หยุดที่ราคาในวันนี้อย่างแน่นอน หากมีเงินสดก็ควรซื้อทองเก็บไว้ 

ขณะที่หญิงวัย 45 ปี เปิดเผยว่า มาซื้อทองไม่ใช่เพราะทองราคาขึ้น แต่เพราะเธอซื้อทองอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว หากมีเงินน้อยก็ซื้อน้อย เมื่อใดที่มีเงินเยอะก็ซื้อมาก ส่วนชายวัย 50 ปี ยอมรับว่า ลังเลเล็กน้อยเพราะขณะนี้ราคาขึ้นไปสูงแล้ว แต่คิดว่าควรซื้อเก็บไว้ เผื่อต้องใช้ทองคำในวันข้างหน้า

สื่อท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่า ทองคำเป็นที่ต้องการในเวียดนามเพราะความเชื่อที่มีมายาวนานว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันเวียดนามจะอนุญาตให้บริษัทต่างๆ นำเข้าทองคำได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทำให้ราคาทองคำในประเทศมีเสถียรภาพ 

นักเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่น ระบุอีกว่า มาตรการนี้หวังทำให้อุปสงค์และอุปทานทองคำมีความสมดุล อีกทั้งยังเป็นการระดมทรัพยากรเอกชนมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นไปอีกด้วย ทั้งนี้นับตั้งแต่รัฐบาลเวียดนามประกาศยกเลิกการผูกขาดการผลิตทองคำแท่งเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ธนาคารเอเชียคอมเมอร์เชียลแบงก์หรือเอซีบี (ACB) ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนามได้ประกาศว่า จะผลิตทองคำแท่งในตราของธนาคารเอง

ด้านเว็บไซต์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์อินเตอร์เนชันนัล รายงานว่า ราคาทองคำโลกที่สร้างสถิติใหม่เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์ปรับขึ้นร้อยละ 0.92 ในวันนั้นเป็นตำลึงละ 141.9 ล้านด่ง (คิดเป็นเงินไทยราว 175,700 บาท ) ส่วนราคาแหวนทองปรับขึ้นร้อยละ 1.01 เป็นตำลึงละ 139.1 ล้านด่ง (คิดเป็นเงินไทยราว 172,200 บาท) ราคาทองคำแท่งในเวียดนามปรับขึ้นแล้วร้อยละ 67 ตั้งแต่ต้นปี โดยมีราคาสูงกว่าราคาโลกตำลึงละ 14 ล้านด่ง (คิดเป็นเงินไทยราว 17,330 บาท) ส่วนราคาแหวนทองในเวียดนามปรับขึ้นแล้วร้อยละ 63 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ทั้งนี้ 1 ตำลึงทองมีน้ำหนักเท่ากับ 37.5 กรัม หรือ 1.2 ออนซ์

ด้านที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย คนจำนวนมากแห่ไปซื้อทองคำโดยลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำน่าจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไป อโมรา ฟาธาราสกี วัย 22 ปี ผู้ซื้อทองคำหนึ่งกรัมเมื่อวันพฤหัสบดีกล่าวว่า ตราบใดที่ผมยังมีเงินเหลือซื้อทองคำ ผมก็รู้สึกปลอดภัยที่จะลงทุนในทองคำมากกว่าการลงทุนอื่นๆ ขณะที่สาขาหนึ่งของร้านทองกาเลอรี 24   ซึ่งเป็นร้านทองของรัฐในอินโดนีเซีย ระบุว่า ยอดขายทองคำที่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ซื้ออย่างน้อย 90% เทียบกับลูกค้าที่ขายเพียง 10% ตามคำกล่าวของผู้จัดการร้าน