วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
24 ตุลาคม 2568 เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของฮ่องกง 'HK01' ได้ออกมารายงานข่าวว่า เผยแพร่รายงานสอบสวนพิเศษ เกี่ยวกับ 'เฉิน จื้อ' ผู้ก่อตั้งบริษัท ปรินซ์ กรุ๊ป ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา
โดยเปิดเผยว่า 'เฉิน จื้อ' เป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์เกรดเอทั้งหลังในย่านจิมซาจุ่ย และบ้านพักตากอากาศย่านเดอะพีก ซึ่งเขาใช้เป็นหลักประกันเงินกู้หลายครั้ง แต่ละครั้งได้รับการชำระคืนเต็มจำนวนภายในไม่กี่เดือน ทำให้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ในเดือน ธันวาคม 2559 ได้มีรายงานการซื้อขายบ้านเลขที่ 1 ถนนเมานต์นิโคลสัน ย่านเดอะพีก ซึ่งเป็นอาคารที่มีราคาแพงที่สุดในเวลานั้น ด้วยราคา 1.08 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือคิดเป็นเงินไทยราว 4 พันล้านบาท
อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวถูกซื้อโดยบริษัท Giant Victory Holdings Limited ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน และผู้ที่รับผิดชอบในการลงนามในเอกสารการขายคือ โจว โหย่วเฉียง แต่เขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผู้ซื้อ กระทั่งเดือน ตุลาคม 2568 บริษัท Giant Victory ได้ปรากฏในเอกสารคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่าบริษัทดังกล่าวถูกควบคุมโดย 'เฉิน จื้อ' นั่นทำให้เรื่องแดงออกมาว่า ผู้ที่ซื่อบ้านหรูหลังดังกล่าวคือ 'เฉิน จื้อ' นั่นเอง
การขายบ้านเลขที่ 1 บนนถนนเมานต์นิโคลสันเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2560 แต่ปรากฏว่า ในเดือนเดียวกันนั้น บ้านหลังนี้ถูกจำนองกับบริษัทเงินทุนแห่งหนึ่งเป็นเงินกู้ 600 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งต่อมาชำระคืนภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน จากนั้นในเดือน กรกฎาคม 2561 บ้านหลังนี้ถูกจำนองอีกครั้งกับบริษัทเงินทุนอีกแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินกู้ และถูกไถ่ถอนภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติในตลาด ปัจจุบันบ้านหลังนี้ไม่มีการจำนองและมีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือคิดเป็นเงินไทยราว 5.48 พันล้านบาท
นอกจากนี้สื่อฮ่องกง ยังพบว่า 'เฉิน จื้อ' ได้เข้าซื้ออาคารพาณิชย์เกรดเอเลขที่ 68 ถนนคิมเบอร์ลีย์ ย่านจิมซาจุ่ย ในปี 2561 ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทยราว 1.265 หมื่นล้านบาท เท่ากับว่า 'เฉิน จื้อ' มีทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลอยู่ในฮ่องกง ไม่เพียงเท่านั้น ตามบันทึกของสำนักงานทะเบียนบริษัทฮ่องกง 'เฉิน จื้อ' เริ่มจดทะเบียนบริษัทหลายแห่งในฮ่องกงในปี 2561 และดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทด้วยตนเอง วัตถุประสงค์ของบริษัทบางแห่งยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด และบริษัทเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในรายชื่อบริษัทที่ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
'เฉิน จื้อ' ยังซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน 2 แห่ง จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมสูงสุด โดยมีหุ้นมากกว่า 50% และนำบริษัทเหล่านั้นขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาในปี 2562 และในปี 2566 ได้เข้าสู่ธุรกิจสินค้าหรูหรา สื่อฮ่องกง ระบุว่า พฤติการณ์เหล่านี้ของ 'เฉิน จื้อ' แสดงให้เห็นว่า เขาเข้ามาฟอกเงินในฮ่องกงตั้งแต่ปี 2559 เป็นอย่างน้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี