ตำรวจสิงคโปร์ยึดทรัพย์'เฉินจื้อ-ปรินซ์กรุ๊ป'3.7พันล้านบาท พัวพันฟอกเงิน-ปลอมแปลงข้ามชาติ

ตำรวจสิงคโปร์ยึดทรัพย์'เฉินจื้อ-ปรินซ์กรุ๊ป'3.7พันล้านบาท พัวพันฟอกเงิน-ปลอมแปลงข้ามชาติ

วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.15 น.

31 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ได้เริ่มปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อดำเนินคดีกับ 'เฉิน จื้อ' (Chen Zhi) ผู้ก่อตั้งบริษัท ปรินซ์กรุ๊ป และพวก ในความผิดฐานฟอกเงินและปลอมแปลง 

ตำรวจสิงคโปร์ ระบุว่า ในปี 2567 ได้รับข่าวกรองทางการเงินจากสำนักงานรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย (STRO) เกี่ยวกับ เฉิน จื้อ และพวก จึงได้เริ่มการสืบสวนและประสานงานกับหน่วยงานต่างประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูลและความช่วยเหลือ


จากนั้นด้วยข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้รับจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่มีการประกาศยึดทรัพย์และคว่ำบาตร เฉิน จื้อ ตำรวจสิงคโปร์จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานสมาชิกของเครือข่ายประสานงานและความร่วมมือต่อต้านการฟอกเงิน (AC3N) เพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป หลังจากนั้นตำรวจสิงคโปร์ได้เริ่มปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายกับ  'เฉิน จื้อ'และพวก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568

ปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจสิงคโปร์ได้ยึดอสังหาริมทรัพย์ 6 รายการ และสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ รวมถึงบัญชีธนาคาร บัญชีหลักทรัพย์ และเงินสด ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณกว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ คิดเป็นเงินไทยราว 3.7 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นๆ ได้แก่ เรือยอชต์ 1 ลำ รถยนต์ 11 คัน และสุราจำนวนมาก 

ตามกฎหมายสิงคโปร์ ความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติการทุจริต การค้ายาเสพติด และอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ 1992 (CDSA) มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงินไทยราว 12.4 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดฐานปลอมแปลงเพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อโกงตามมาตรา 468 แห่งประมวลกฎหมายอาญา 1871 มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีและปรับ

เดวิด ชู ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการพาณิชย์ กองกำลังตำรวจสิงคโปร์ กล่าวว่า เพื่อธำรงไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือและอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม เราขอแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อบุคคลและกลุ่มอาชญากรที่แสวงหาประโยชน์จากระบบการเงินของสิงคโปร์ในการก่ออาชญากรรม คดีนี้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการฉ้อโกงข้ามชาติขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน ซึ่งใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและทางการเงินในหลายเขตอำนาจศาล ขอบเขตและขนาดของความผิดเหล่านี้ต้องการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากหลายประเทศ

"อาชญากรรมเหล่านี้เกิดขึ้นข้ามพรมแดนหลายแห่ง และพยานหลักฐาน และทรัพย์สินต่างๆ ได้รับการคุ้มครองในหลายเขตอำนาจศาล เราจะยังคงทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศ หน่วยข่าวกรองทางการเงิน และพันธมิตรในประเทศ เพื่อต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรรมและเครือข่ายฟอกเงินเหล่านี้" เดวิด ชู กล่าว  ต่อมาทางตำรวจสิงคโปร์ยืนยันว่าปัจจุบัน 'เฉิน จื้อ' และพวก ไม่ได้อยู่ในประเทศสิงคโปร์แล้ว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top