14 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานอัยการสูงสุดเมืองมิลานของอิตาลีได้เปิดการสอบสวนกรณีมีข้อกล่าวหาร้ายแรงว่า ชาวอิตาลีบางกลุ่มเดินทางไปบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนาในช่วงสงครามต้นทศวรรษ 1990 เพื่อปฏิบัติการซุ่มยิงพลเรือน โดยมีการจ่ายเงินเพื่อแลกกับการได้ยิงประชาชนในเมืองซาราเยโวที่ถูกปิดล้อม

ข้อร้องเรียนดังกล่าวยื่นโดย เอซิโอ กาวาซเซนี (Ezio Gavazzeni) นักข่าวและนักเขียน ซึ่งระบุว่าคนรวยจำนวนหนึ่งที่ชื่นชอบในอาวุธ และยอมจ่ายเงินสูงเพื่อยิงเหยื่อที่ไม่สามารถต่อสู้ได้จากเนินเขาที่ฝ่ายเซิร์บใช้เป็นฐานยิงเมืองซาราเยโว โดยบางรายงานอ้างว่ามีการคิดราคาแตกต่างกัน ตามประเภทเหยื่อ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง หรือเด็ก

ซาราเยโวถูกปิดล้อมนาน 4 ปี มีผู้เสียชีวิตกว่า 11,000 คน ท่ามกลางการยิงปืนใหญ่และสไนเปอร์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องซาฟารีมนุษย์ จากต่างชาติเคยถูกหยิบยกขึ้นมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีหลักฐานชัดเจน

กาวาซเซนี เริ่มรื้อคดีนี้อีกครั้งหลังชมภาพยนตร์สารคดี Sarajevo Safari (2022) ซึ่งกล่าวหาว่าผู้เกี่ยวข้องมาจากหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ รัสเซีย และอิตาลี เขาจึงรวบรวมข้อมูล รวมถึงคำให้การเจ้าหน้าที่ข่าวกรองบอสเนีย และส่งให้โจทก์อัยการอิตาลีในแฟ้มข้อมูลกว่า 17 หน้า

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองบอสเนียเปิดเผยว่า ฝ่ายเขาพบเบาะแสทัวร์ซุ่มยิง ตั้งแต่ปี 1993 และแจ้งข้อมูลให้หน่วยข่าวกรองอิตาลีรับทราบ กระทั่งต้องหยุดลงในไม่กี่เดือนหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม การสอบสวนในบอสเนียกลับไม่คืบหน้า

ด้านเจ้าหน้าที่อังกฤษที่เคยประจำการในซาราเยโวช่วงเหตุการณ์ให้ข้อมูลกับ BBC ว่า ไม่เคยเห็นหลักฐานหรือได้ยินเรื่องทัวร์สไนเปอร์มาก่อน และมองว่าข้อกล่าวหานี้อาจเป็นเพียงตำนานเมือง เพราะแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะลำเลียงบุคคลอื่นผ่านด่านตรวจจำนวนมากได้

ขณะนี้ อัยการอิตาลีอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานและตรวจสอบข้อมูลว่ามีชาวอิตาลีหรือบุคคลใดเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวจริงหรือไม่ ท่ามกลางความสนใจจากนานาชาติ เนื่องจากหากข้อกล่าวหานี้เป็นจริง จะถือเป็นหนึ่งในอาชญากรรมสงครามที่รุนแรงที่สุดในยุโรปยุคใหม่

ที่มา bbc