1 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย (BNPB) รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มบนเกาะสุมาตราเพิ่มขึ้นเป็น 442 ราย ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ขณะที่มีผู้บาดเจ็บกว่า 640 ราย และยังคงมีผู้สูญหายราว 400 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ สุมาตราเหนือ สุมาตราตะวันตก และอาเจะห์

เหตุพิบัติครั้งใหญ่ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของ ไซโคลนเซนยาร์ ทำให้มรสุมทวีความรุนแรง น้ำป่าไหลหลาก ซัดบ้านเรือนหลายพันหลังพังทลายและจมใต้น้ำ ส่งผลให้ประชาชนเกือบ 50,000 ครอบครัวต้องอพยพหนีภัย ขณะที่อย่างน้อย 2 เมืองยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ถนนพัง ไฟฟ้า–อินเทอร์เน็ตฟื้นฟูได้เพียงบางส่วน

รัฐบาลอินโดนีเซียส่ง เรือรบ 2 ลำ จากกรุงจาการ์ตาเพื่อขนส่งความช่วยเหลือ คาดว่าจะถึงพื้นที่ในวันจันทร์ แต่การกู้ภัยยังประสบอุปสรรคจากสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้ยังมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ในพื้นที่ตาปานูลี ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด รายงานระบุว่าชาวบ้านบางส่วนเริ่มบุกปล้นร้านค้าเพื่อหาอาหารประทังชีวิต ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นให้รัฐบาลกลางประกาศ สถานการณ์ภัยพิบัติแห่งชาติ บนเกาะสุมาตราเพื่อเร่งระดมความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบและรวดเร็วมากขึ้น