วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เหยื่อน้ำท่วม4ชาติในเอเชียพุ่ง1300ศพ ชาวอินโดฯโอดรัฐบาลให้การช่วยเหลือช้ามาก

เหยื่อน้ำท่วม4ชาติในเอเชียพุ่ง1300ศพ ชาวอินโดฯโอดรัฐบาลให้การช่วยเหลือช้ามาก

วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 08.31 น.

3 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ขณะที่ยอดสิ้นชีพของภัยพิบัติครั้งใหญ่สืบเนื่องจากอุทกภัยและดินถล่มใน อินโดนีเซีย ศรีลังกา ไทย และมาเลเซีย 4 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ขณะนี้มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นจนมากกว่า 1,300 ศพแล้ว ในขณะที่รัฐบาลของแต่ละประเทศ กำลังเร่งแจกจ่ายเสบียงอาหารซึ่งกำลังขาดแคลน

รัฐบาลและกลุ่มบรรเทาทุกข์ในอินโดนีเซีย และศรีลังกากำลังเร่งดำเนินการส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งร้ายแรงหลายแสนคนในประเทศของพวกเขา หลังภัยพิบัติครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 1,300 ศพ ใน 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงฤดูมรสุม 


ประกอบกับพายุหมุนเขตร้อน 2 ลูกที่พัดเข้าถล่มเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วศรีลังกา, บางส่วนของเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ภาคใต้ของประเทศไทย และตอนเหนือของมาเลเซีย ขณะนี้ระดับน้ำในหลายประเทศลดลงไปมากแล้วแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอาศัยอยู่ในที่พักพิง และประสบปัญหาในการจัดหาน้ำสะอาดและอาหาร

น้ำท่วมอินโดนีเซีย

โดยที่จังหวัดอาเจะห์ ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ผู้รอดชีวิตที่พอมีกำลังซื้อต่างเร่งกักตุนเสบียง ในขณะที่ถนนในพื้นที่ประสบภัยส่วนใหญ่ยังคงถูกตัดขาด ส่งผลให้ผู้คนกังวลว่าน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมด

ความกดดันดังกล่าวทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดย น.ส.เออร์นา มาร์เดียห์ วัย 29 ปี บอกกับสำนักข่าวว่า "ของส่วนใหญ่ราคาพุ่งสูงไปแล้ว... แค่พริกอย่างเดียวก็ขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 300,000 รูเปียห์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 580 บาท ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ผู้คนแห่ซื้อของด้วยความตื่นตระหนก"

รัฐบาลอินโดนีเซีย ระบุว่า พวกเขากำลังส่งข้าวสาร 34,000 ตัน และน้ำมันปรุงอาหาร 6.8 ล้านลิตร ไปยังสามจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อาเจะห์, สุมาตราเหนือ และสุมาตราตะวันตก แต่ชาวบ้านท้องถิ่นบอกกับทางสำนักข่าวว่า "รัฐบาลดำเนินการช้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดหาสิ่งของจำเป็นพื้นฐาน"

แม้แต่พื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยตรงก็เริ่มประสบปัญหาการขาดแคลน เนื่องจากเส้นทางการคมนาคมถูกตัดขาด เช่นที่ โดลก ซังกุล ในจังหวัดสุมาตราเหนือ ผู้อยู่อาศัยรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าวดังว่า "เขาเข้าคิวรอเติมน้ำมันตั้งแต่บ่ายวันจันทร์ และต้องนอนค้างคืนในรถของเขา แต่พอถึงคิวน้ำมันก็หมดแล้ว"

น้ำท่วมอินโดนีเซีย

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย เปิดเผยในวานนี้วา ขณะนี้จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วเกาะสุมาตราเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 712 ศพ ในขณะที่จำนวนผู้สูญหายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยยังมีผู้ที่ระบุอยู่ในรายชื่อผู้สูญหายอีกกว่า 500 คน และมีประชาชนอีก 1.2 ล้านคนที่ต้องอพยพพลัดถิ่น

ระบบสภาพอากาศเดียวกันกับที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในอินโดนีเซีย ยังทำให้เกิดฝนตกหนักในภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 176 ราย ขณะที่ภาคเหนือของมาเลเซียก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ 

พายุอีกลูกทำให้เกิดฝนตกหนักในศรีลังกา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มรุนแรงหลายจุด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 410 ราย และมีผู้สูญหายอีก 336 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคาดการณ์ว่า จำนวนผู้เคราะห์ร้ายอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังขุดค้นผ่านโคลนเพื่อค้นหาเหยื่อที่ถูกฝังจากเหตุดินถล่ม 

ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในศรีลังกาขณะนี้ทำให้ประธานาธิบดีอนุระ กุมาระ ทิสสานายาเก ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ โดยตอนนี้ศรีลังกากำลังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศอินเดียและปากีสถานแล้ว 

น้ำท่วมอินโดนีเซีย
น้ำท่วมอินโดนีเซีย
น้ำท่วมอินโดนีเซีย
น้ำท่วมอินโดนีเซีย
น้ำท่วมอินโดนีเซีย
น้ำท่วมอินโดนีเซีย
น้ำท่วมศรีลังกา
น้ำท่วมศรีลังกา
น้ำท่วมศรีลังกา
น้ำท่วมศรีลังกา
น้ำท่วมศรีลังกา
น้ำท่วมศรีลังกา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top