5 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ได้ปิดศูนย์กลางการฟอกเงินฉาวโฉ่แห่งหนึ่ง ซึ่งถูกใช้เพื่อฟอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากอาชญากร นักต้มตุ๋น และมิจฉาชีพ รวมถึงแฮกเกอร์ในเกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ระบุว่า ตามข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐ คาดว่า ฮุยวัน กรุ๊ป (Huione Group) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีบริษัทหลายแห่งในกัมพูชา มีส่วนรับผิดชอบต่อการฟอกเงินกำไรผิดกฎหมายมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 127,712 ล้านบาท นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564

การสอบสวนของเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ พบว่า กลุ่มบริษัทของฮุยวัน กรุ๊ป เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการฟอกเงินทั่วโลก โดยเหล่านักต้มตุ๋นออนไลน์ที่ฉ้อโกงเหยื่อด้วยการลงทุนปลอม หรือแผนการอื่นๆ อาศัยฮุยวันและบริษัทในเครือข่าย เพื่อโอนเงินไปยังต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ก็มีการหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานต่อต้านการฟอกเงินของธนาคารหลายแห่ง

ซึ่งในแถลงการณ์ที่โพสต์บนลิงก์อิน (LinkedIn) ธนาคารกลางกัมพูชา ระบุว่า จัดการเพิกถอนใบอนุญาตของฮุยวัน และบังคับขายทรัพย์สินแล้ว หนึ่งในเครื่องฟอกเงินซึ่งทำกำไรได้มากที่สุดของฮุยวัน คือ ตลาดที่เชื่อมโยงกับธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่ากว่า 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 829,920 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2564 โดยแม้จะเป็นเรื่องยากที่จะจำแนกธุรกรรมที่ถูกและผิดกฎหมาย แต่นักวิเคราะห์จากบริษัทอิลลิปติก กล่าวว่า แพลตฟอร์มนี้เป็นตลาดอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมายขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

โดยในแถลงการณ์ล่าสุด ธนาคารกลางกัมพูช าย้ำว่า ไม่มีสถาบันการเงินหรือธนาคารแห่งใด ที่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศแห่งนี้ พร้อมเตือนให้ประชาชน รวมถึงสถาบันการเงินและธนาคารทั้งหมด ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล