ทางการกัมพูชารายงานสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทวีความรุนแรงขึ้น หลังกล่าวหาว่า กองทัพไทย ใช้เครื่องบินรบและอาวุธหนัก โจมตีในพื้นที่พลเรือนหลายจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และประชาชนอพยพเป็นจำนวนมาก

กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า เมื่อเวลา 11.06 น. ของเมื่อวานนี้ เครื่องบินรบ F-16 ของไทยได้ทิ้งระเบิด 2 ลูก ใส่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปอยเปต ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่สำคัญ เป็นทั้งศูนย์กลางการค้าและการคมนาคม ทำให้ประชาชนละแวกนั้นแตกตื่นหนีออกจากพื้นที่กันอลหม่าน อีกทั้งเครื่องบินรบของไทยได้บินรุกล้ำเข้าไปเมืองเซรีเซาโพอัน เมืองหลวงของจังหวัดบันทายมีชัย ทิ้งระเบิด 4 ลูก ในช่วงเวลา 14.32 น. และ 14.45 น. ส่งผลให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่ของชาวบ้าน

กัมพูชา ยังกล่าวหาอีกว่า ในช่วงสัปดาห์เดียวกัน ไทยยังได้ขยายการโจมตีไปยังพื้นที่อื่น ๆ รวมถึงจังหวัดเสียมเรียบอยู่ห่างจากชายแดนกว่า 70 กิโลเมตร ระเบิดตกใกล้ค่ายผู้ลี้ภัย ทำให้ครอบครัวผู้พลัดถิ่นหลายพันครอบครัวต้องอพยพซ้ำ นอกจากนี้ ยังมีการใช้ปืนใหญ่ รถถัง โดรนติดอาวุธ เรือรบ และอาวุธหนักหลายชนิด ยิงโจมตีอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน

ซึ่ง พลโทหญิง มาลี โซเชียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังกล่าวเสริมว่า นับตั้งแต่การเริ่มการปะทะระหว่างกัมพูชา-ไทย มีประชาชนอพยพกว่า 478,000 ราย เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บ 79 ราย อีกทั้งยังได้กล่าวประณามการกระทำของไทยว่า เป็นการละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมปฏิเสธเงื่อนไขหยุดยิงที่ฝ่ายไทยเสนอ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก khmertimeskh.com