อาเซียน แถลงการณ์ ยินดีไทย-กัมพูชากลับสู่การหารือหยุดยิง/ยุติการสู้รบ

อาเซียน แถลงการณ์ ยินดีไทย-กัมพูชากลับสู่การหารือหยุดยิง/ยุติการสู้รบ

วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 18.59 น.

22 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย ทางอาเซียนได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว ระบุว่า

1. รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนได้จัดการประชุมพิเศษเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 22 ธ.ค. 68 ตามมติของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กัมพูชา และไทย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 68


2. มาเลเซียได้รายงานต่อที่ประชุมเกี่ยวกับความพยายามของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะประธานอาเซียน ในการสนับสนุนให้ทั้งกัมพูชาและไทยยุติการเป็นปรปักษ์ ที่ประชุมยังได้รับฟังรายงานจากคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) โดยกัมพูชาและไทยได้ร่วมแชร์จุดยืนของตน

3. ที่ประชุมชื่นชมบทบาทเชิงรุกและการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม และประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียนและจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน ในการส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติ ที่ประชุมรู้สึกยินดีกับความเต็มใจและความพร้อมของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ในการสานต่อความร่วมมือกับประธานอาเซียนเพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความเข้าใจผิดใด ๆ ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

4. ที่ประชุมยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในความเป็นเอกภาพและความสามัคคีของอาเซียน ตลอดจนบทบาทสำคัญของอาเซียนในการสร้างสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ตามที่ระบุไว้ในกฎบัตรอาเซียน

5. ที่ประชุมระลึกถึงข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. มติของการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ตลอดจนปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ที่ลงนามเมื่อวันที่ 26 ต.ค. และเรียกร้องให้ทั้งกัมพูชาและไทยดำเนินการตามข้อตกลงเหล่านั้นอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

6. ที่ประชุมแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดและการสู้รบที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนได้รับความเสียหาย และพลเรือนต้องพลัดถิ่นทั้งสองฝั่งชายแดน และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายรับประกันว่าพลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบจะสามารถกลับคืนสู่บ้านเรือนและประกอบอาชีพตามปกติได้โดยปราศจากอุปสรรค อย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี เช่นเดียวกับก่อนเกิดการสู้รบ

7. ที่ประชุมยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะงดเว้นจากการข่มขู่หรือใช้กำลัง การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี และการเคารพพรมแดนระหว่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันในเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดน และเอกลักษณ์ของชาติ ตามกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC)

8. ที่ประชุมเรียกร้องให้กัมพูชาและไทยใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุดและดำเนินการโดยทันทีเพื่อยุติการสู้รบทุกรูปแบบ ที่ประชุมเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศฟื้นฟูความไว้วางใจและความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน และกลับสู่การเจรจา รวมถึงผ่านกลไกทวิภาคี ตลอดจนการใช้บทบาทของประธานอาเซียน ฟื้นฟูความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม และดำเนินการลดระดับความตึงเครียดทางทหารตามแนวชายแดนร่วมกันภายใต้การสังเกตการณ์ของสมัชชาอาเซียน และยึดมั่นในหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือพหุภาคีในการแสวงหาทางออกที่สันติและยั่งยืนต่อสถานการณ์

9. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยินดีกับการหารือเกี่ยวกับการกลับมาเจรจาหยุดยิงและการยุติการสู้รบ คณะกรรมการชายแดนกัมพูชาและไทยจะประชุมในวันที่ 24 ธ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการและการตรวจสอบการหยุดยิง รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนแสดงความหวังว่าการสู้รบจะลดระดับลงโดยเร็วที่สุด

10. รัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนให้คำมั่นว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top