วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เดนมาร์กแสดงความไม่พอใจกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แต่ตั้งทูตพิเศษประจำกรีนแลนด์ หวังผนวกดินแดนแห่งนี้เป็นของสหรัฐฯ เตรียมเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเดินมาร์กเข้าพบ
23 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ลาร์ส ลุกเคอ ราสมุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศเดนมาร์กกล่าวกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเดนมาร์กเมื่อวานนี้ว่า เขาไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทูตพิเศษประจำกรีนแลนด์ ซึ่งทรัมป์แสดงความประสงค์ว่าต้องการเห็นเกาะแห่งนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เขามองว่าไม่อาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิง เขาจะเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเดนมาร์กเข้าพบ เพื่อตอบโต้ต่อการเคลื่อนไหวของรัฐบาลทรัมป์ ราสมุสเซนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การแต่งตั้งผู้แทนคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอกย้ำถึงความสนใจอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ ต่อกรีนแลนด์ แต่เขาขอยืนยันว่า ทุกฝ่ายรวมถึงสหรัฐฯ ต้องแสดงความเคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรเดนมาร์ก
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง เจฟฟ์ แลนดรี ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา ซึ่งรับตำแหน่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ให้เป็นทูตพิเศษประจำกรีนแลนด์ ดินแดนกึ่งปกครองตนเองภายใต้ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ขณะที่แลนดรีกล่าวขณะขอบคุณทรัมป์ว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ท่านในตำแหน่งอาสาสมัครนี้ เพื่อทำให้กรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ และว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อบทบาทของเขาในฐานะผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา
ทรัมป์ได้กล่าวย้ำหลายครั้งว่า ต้องการผนวกกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ อุดมไปด้วยทรัพยากรในมหาสมุทรแอตแลนติก และเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก โดยอ้างว่ามีความจำเป็นต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ขณะที่รองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนเกาะแห่งนี้ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเดือนมีนาคม โดยกล่าวว่า กรีนแลนด์มีความเปราะบาง และว่าสหรัฐฯ ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเพิ่มบทบาทและการปรากฏตัวในพื้นที่ดังกล่าว
ขณะที่ทั้งกรีนแลนด์และเดนมาร์ก ซึ่งเป็นพันธมิตรในองค์การนาโตของสหรัฐฯ ต่างคัดค้านแนวคิดนี้อย่างแข็งขัน เยนส์-เฟรเดอริก นีลเซน นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ แสดงท่าทีแข็งกร้าวเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่าการประกาศของทรัมป์อาจฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรสำหรับกรีนแลนด์ ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตัวเอง โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้แทนสหรัฐฯ ประจำเดนมาร์กถูกเรียกตัวโดยกระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์ก หลังจากสื่อสาธารณะของประเทศรายงานว่า ชายชาวอเมริกันหลายคนพยายามใช้อิทธิพลดำเนินการแทรกแซงในกรีนแลนด์
สำหรับกรีนแลนด์ อดีตอาณานิคมของเดนมาร์ก ที่มีประชากรประมาณ 57,000 คน มีสิทธิ์ที่จะประกาศเอกราชภายใต้ของตกลงในปี 2552 แต่ยังคงพึ่งพาการประมงและความช่วยเหลือจากเดนมาร์ก แต่เนื่องจากกรีนแลนด์ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ระหว่างยุโรปและอเมริกาเหนือ ทำให้ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน การที่เกาะกรีนแลนด์อุดมสมบุรณ์ด้วยแร่ธาตุ ยิ่งตอกย้ำความสนใจของสหรัฐฯในการลดการพึ่งพาการนำเข้าจากจีน
ด้านอานูอาร์ เอล อานูนี โฆษกสหภาพยุโรป กล่าวว่า “การรักษาบูรณภาพดินแดนของราชอาณาจักรเดนมาร์ก อธิปไตย และความมั่นคงของพรมแดนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับสหภาพยุโรป” ในการตอบโต้การเคลื่อนไหวของทรัมป์ดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี