โป๊ปเลโอที่ 14 ตรัสในวันคริสต์มาสครั้งแรก ขอให้โลกหยุดความรุนแรง

โป๊ปเลโอที่ 14 ตรัสในวันคริสต์มาสครั้งแรก ขอให้โลกหยุดความรุนแรง

วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 08.46 น.

สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก มีพระราชดำรัสวันคริสต์มาสเป็นครั้งแรก ตรัสถึงปัญหาความขัดแย้งทั่วโลก วิงวอนให้รัสเซียกับยูเครนหันหน้าเจรจากัน และแสดงความเป็นห่วงชาวปาเลสไตน์ในกาซา

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ประทานพระดำรัสเนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสครั้งแรก ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกันเมื่อวานนี้ เป็นการประทานพรที่เรียกเป็นวลีภาษาละตินว่า “อูร์บิ เอ็ต ออร์บิ” (Urbi et Orbi) ซึ่งตามประเพณีแล้ว ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกจะมีพระราชดำรัสแก่คริสต์ศาสนิกชน ที่มารวมตัวกันในนครรัฐวาติกันในวันคริสต์มาส


โป๊ปเลโอทรงตรัสจากระเบียงกลางของมหาวิหารนักบุญเปโตร ต่อหน้าผู้คนหลายพันคนที่รวมตัวกันในจัตุรัสด้านล่าง โดยทรงแสดงความเสียพระทัยต่อความขัดแย้งทั้งทางการเมือง สังคม และการทหารในหลายพื้นที่ ทรงตรัสถึงกรณีของยูเครนว่า “ขอให้เสียงอึกทึกของอาวุธสงครามสงบลง และขอให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การสนับสนุนและความมุ่งมั่นของประชาคมโลก จงค้นหาความกล้าหาญที่จะหันหน้าเข้าหากันเพื่อสนทนาอย่างจริงใจ โดยตรง และให้เกียรติซึ่งกันและกัน”

คำอ้อนวอนของโป๊ปเลโอมีขึ้นในขณะที่การเจรจาเรื่องข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อพยายามจัดทำข้อตกลงที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย แต่การเจรจาโดยตรงระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่เกิดขึ้น

โป๊ปเลโอยังทรงตำหนิความวุ่นวายและความขัดแย้งที่กำลังรุมเร้าส่วนอื่นๆ ของโลก รวมถึงในประเทศไทยและกัมพูชา ซึ่งเกิดการปะทะกันตามแนวชายแดนที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต แม้จะมีการประกาศหยุดยิงไปเมื่อเดือนกรกฎาคมก็ตาม ทรงขอให้มิตรภาพอันยาวนานของนานาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการฟื้นฟู และขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันทำงานเพื่อมุ่งสู่การคืนดีและสันติภาพ

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โป๊ปเลโอ ทรงแสดงธรรมเนื่องในวันคริสต์มาส ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ โดยแสดงความเสียพระทัยต่อสภาพความเป็นอยู่ของคนไร้บ้านทั่วโลก และความเสียหายที่เกิดจากความขัดแย้งต่างๆ และยังทรงแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ของผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่เดินทางข้ามทวีปอเมริกา สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายปราบปรามผู้อพยพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้เอ่ยถึงทรัมป์โดยตรง โดยในบทเทศน์คืนวันคริสต์มาสอีฟเมื่อวันพุธ พระองค์ตรัสว่า การปฏิเสธช่วยเหลือคนยากจนและคนแปลกหน้า เท่ากับเป็นการปฏิเสธพระเจ้า

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top