27 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัสเซีย ยิงขีปนาวุธและโดรน โจมตีกรุงเคียฟ และอีกหลายภูมิภาคทั่วประเทศยูเครน ก่อนการพบกันครั้งสำคัญระหว่างประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพื่อหาทางทำให้เกิดข้อตกลงในการยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปี

ก่อนการโจมตีจะเกิดขึ้น ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุว่า การเจรจาที่จะเกิดขึ้นที่รัฐฟลอริดาในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ จะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการควบคุมเขตแดนของแต่ละฝ่าย หลังจากมีการยุติการสู้รบ ซึ่งสงครามครั้งนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 จากการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน จนกลายเป็นความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา

ขณะที่หน่วยป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนเริ่มปฏิบัติการตอบโต้ กองทัพอากาศยูเครน ระบุว่า โดรนของรัสเซียกำลังพุ่งเป้าการโจมตีไปที่เมืองหลวง รวมถึงภูมิภาคในแถบตะวันออกเฉียงเหนือและทางใต้ ปฏิบัติการโจมตียังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันเสาร์ ท่ามกลางเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศที่ยังคงดังกึกก้องในเมืองหลวง เบื้องต้นทางการรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 ราย

ต่อมาทางการเปิดเผยว่า อาคารที่พักอาศัยกว่า 2,600 แห่ง สถานรับเลี้ยงเด็ก 187 แห่ง และโรงเรียนอีก 138 แห่ง ต้องตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนระบบทำความร้อน หลังจากถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักในช่วงข้ามคืน ท่ามกลางอุณหภูมิในเมืองหลวงที่ลดต่ำลงเหลือประมาณ 0 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ในเขตพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟยังมีรายงานว่าครัวเรือนกว่า 320,000 แห่ง ต้องเผชิญกับภาวะไฟฟ้าดับจากเหตุการณ์นี้ด้วย

ขณะเดียวกันผลจากการโจมตีของรัสเซียยังส่งผลกระทบไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน โดยสนามบินแชชุฟ และลูบลิน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว หลังจากกองทัพโปแลนด์ต้องรีบส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นบินลาดตระเวน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ ทั้งนี้ ทางด้านรัสเซียยังไม่ได้มีการออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อการโจมตีในครั้งนี้