ดร.อินทิรา พรมพันธุ์ และ ดร.โสมฉาย บุญญานันต์
เมนูเด็ดจากหอยแมลงภู่มีมากมายหลากหลาย แต่ใครจะรู้บ้าง “เปลือกหอยแมลงภู่” ของเหลือจากเมนูเด็ดเหล่านั้น ไปสู่ที่หนใด แน่นอนว่ามันจะกลายเป็น เศษอาหารถูกทิ้งลงถึงขยะ หากแต่วันนี้ สองอาจารย์ จาก สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.อินทิรา พรมพันธุ์ และ ดร.โสมฉาย บุญญานันต์ นำเปลือกหอยแมลงภู่จากถึงขยะมาสร้างมูลค่าเป็นงานศิลปะประดิษฐ์สุดล้ำ ผ่านนวัตกรรม “ดินจุฬา” (Chula Clay) กลายเป็นเครื่องประดับแฟชั่น สไตล์ DIY ที่ดีไซเนอร์และบรรดาเจ้าของธุรกิจแฟชั่นทั้งไทยเทศให้ความสนใจ
ดร.อินทิรา พรมพันธุ์ เล่าถึงที่มาของเครื่องประดับจาก “ดินจุฬา” (Chula Clay) ว่า เป็นผลงานการวิจัยนวัตกรรมพัฒนาต้นแบบ และถ่ายทอดกระบวนการสร้างสรรค์เครื่องประดับ และงานศิลปหัตถกรรมจากดินจุฬา เป็นการพัฒนาเนื้อสีและเนื้อดินชนิดพิเศษที่ให้คุณสมบัติเป็นประกายมุก ซึ่งต่างไปจากวัสดุปั้นที่มีอยู่แล้วในท้องตลาด โดยการนำเกล็ดประกายมุกที่แปรรูปจากเปลือกหอยแมลงภู่ ซึ่งเป็นขยะอุตสาหกรรมอาหารทะเลจำนวนมหาศาลในแต่ละปีมาใช้พัฒนาเป็นดินจุฬา
“เราต้องการให้ดินจุฬาเป็นวัสดุสำหรับปั้นที่มีประกายแวววาวในเนื้อดิน ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย เป็นวัสดุทางศิลปะที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผลิตจากขยะเหลือทิ้ง และมีขั้นตอนในการนำไปใช้สร้างผลงานศิลปะที่ประหยัดพลังงาน เมื่อปั้นเสร็จแล้ว สามารถตั้งทิ้งไว้ให้แห้งแล้วนำไปใช้งานได้เลย ไม่ต้องใช้เตาเผาซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ที่สำคัญที่สุดคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ”
กว่าจะได้ ดินจุฬา ที่พร้อมสำหรับงานปั้นนั้น ดร. อินทิรา บอกว่าต้องทดลองสูตรดินอยู่นาน เพื่อทำให้ดินปั้นมีคุณสมบัติไม่ต่างจากดินไทยหรือดินญี่ปุ่น สุดท้ายก็ได้สูตรง่ายๆ เพียงนำมาผสมกาวลาเท็กซ์และสีน้ำเพื่อให้มีสีสันหวานใส และสามารถเติมกลิ่นหอมได้ตามต้องการอีกด้วย โดยดินที่ได้จะสีไม่ซีด ไม่ลอก เมื่อโดนน้ำก็สามารถกลับคืนรูปได้ และทำความสะอาดง่ายเพียงเอาแปรงจุ่มน้ำและปัดฝุ่นออกก็สะอาดแล้ว จึงทำให้เครื่องประดับที่ได้มีความทนทานและสามารถรังสรรค์ได้หลากหลายรูปแบบ จนสามารถคว้ารางวัล 2 เหรียญทอง จากการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก อย่างการประกวดสิ่งประดิษฐ์นานาชาติแห่งเจนีวา ในรางวัลประเภท Teaching methods and materials – Musical Instruments – Art Materials (Class O) และ ประเภท Clothing- Textile- Machine and Accessories (Class L) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
“โจทย์สำคัญคือเราจะนำดินมาปั้นเป็นเครื่องประดับแบบไหน เพื่อให้ดินปั้นต้นทุนต่ำเกิดมูลค่าขึ้นมา ซึ่งตัวเองสอนการออกแบบ ต้องศึกษาเทรนด์แฟชั่นต่างๆ จึงประดิษฐ์เครื่องประดับเซ็ตแรกในเทรนด์ Natural Harmony ซึ่งเป็นเทรนด์ประจำ ซีซั่นสปริง ซัมเมอร์ 2013 และแนวทางการออกแบบอย่างยั่งยืน โดยนำดินจุฬาที่ปั้นเป็นรูปดอกไม้ ใบไม้ เปลือกหอย หรือนำลวดลายจากผ้าลูกไม้สร้างพื้นผิวที่สวยงามบนเนื้อดิน จนเป็นรูปแบบที่สวยงามแล้วนำมาประดับกับเครื่องประดับที่เรามีอยู่แล้ว เพียงเท่านี้ เราก็ได้เครื่องประดับชิ้นใหม่ที่เก๋ไก๋กว่าเดิม ซึ่งจากการนำผลงานไปประกวดที่เจนีวาครั้งนั้น ก็มีผู้มาร่วมงานชาวต่างชาติมาขอซื้อทั้งตัวเครื่องประดับและตัวดิน ถึงแม้เราจะยังไม่ได้ทำขาย แต่นั่นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าของของเราสามารถใช้ได้กับผู้หญิงทุกสไตล์และตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าได้”
ดร.โสมฉาย บุญญานันต์ กล่าวว่าเสริม ได้นำดินจุฬาไปจัดการการเรียนการสอนสำหรับเด็กในโรงเรียนต่างๆ ก่อนที่จะนำผลงานไปประกวดที่เจนีวา โดยได้จัดเวิร์กชอปปั้นดินจุฬาฯ โดยชวนน้องๆ และผู้ที่สนใจตั้งแต่ 10-60 ปี มาร่วมเวิร์กชอปปั้นดินจุฬาผลที่ได้ก็ไม่แตกต่างจากดินไทยหรือดินญี่ปุ่น ที่ความโดดเด่นของชิ้นงานคือการได้ผลงานที่มีประกายระยิบระยับจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งเราหวังว่าดินจุฬาจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้รักงานศิลปะประดิษฐ์ หรือทำเครื่องประดับแบบ DIY หรือการนำไปใช้ในการเรียนการสอนศิลปะสำหรับเด็กๆ ในโรงเรียนทั่วไปแทนดินน้ำมัน หรือดินญี่ปุ่น เพราะดินจุฬามีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ผู้ที่สนใจชมและสัมผัสเครื่องประดับจากนวัตกรรมใหม่จากหอยแมลงภู่ ขยะไร้ค่าที่กลายมาเป็นเครื่องประดับเลอค่าได้ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2557 ระหว่างวันที่ 7-11 สิงหาคม 2557 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี