คุณผู้หญิงหลายคนอาจเคยมีอาการคันยุบยิบบริเวณจุดซ่อนเร้น บางคนอาจจะพบเจอกับอาการตกขาวผิดปกติด้วย นี่ถือเป็นสัญญาณของการเป็นเชื้อราในช่องคลอด
สภาวะติดเชื้อราในช่องคลอด หมายถึง ภาวะที่เชื้อราที่มีชื่อว่า แคดิดา แอลบิแคนส์ (Candida Albicans) เติบโตมากผิดปกติ จนทำให้มีอาการคันและตกขาวบริเวณช่องคลอด หรือปากช่องคลอด สภาวะใดก็ตามที่เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในช่องคลอด มักเป็นสาเหตุให้เชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น
สาเหตุของการติดเชื้อรา
อาจจะเกิดจากการสวมใส่ชุดชั้นในที่ไม่สะอาดหรือตากในที่อับแบบไม่โดนแสงแดด การใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเหงื่อเยอะจะทำให้เกิดความอับชื้น ในจุดซ่อนเร้นเยอะมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้อาจจะเกิดจากภาวะร่างกายที่อ่อนแอ ภูมิต้านทานต่ำ และต้องรับประทานยาปฏิชีวนะนานๆ
อาการเริ่มแรก ตกขาวจะมีสีขาวหรือเหลืองเป็นก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นที่ผิดปกติ โดยช่องคลอด จะเกิดการระคายเคือง จนทำให้คันมากจนแทบทนไม่ได้
อาการรุนแรงมาก จะคันมาถึงบริเวณขาหนีบและมีอาการแสบ แดง และระคายเคืองอย่างรุนแรงได้ บางคนอาจจะรู้สึก แสบในช่องคลอดเวลาถ่ายปัสสาวะ
เหตุเกิดเพราะความไม่สมดุล
ในร่างกายเราจะมีทั้งเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียอยู่ ซึ่งโดยปกติเชื้อราและแบคทีเรียจะสมดุลกัน ทำให้เชื้อราสงบไม่เจริญเติบโต เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ไปทำให้ความสมดุลของเชื้อรากับเชื้อแบคทีเรีย หรือสิ่งแวดล้อมในช่องคลอดเปลี่ยนแปลงไป อะไรก็ตามที่ทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดน้อยลงเชื้อราในช่องคลอดก็มักจะเจริญมากขึ้น
ดูแลตัวเองให้ห่างไกลเชื้อรา
เชื้อราในช่องคลอดไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับคุณผู้หญิง ที่นอกจากจะส่งผลถึงสุขภาพและอนามัยแล้ว ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพที่คงจะไม่ดีแน่ ๆ ถ้าคุณเกิดอาการคันในร่มผ้าในที่สาธารณะ ฉะนั้นป้องกันไว้ก่อนเป็นดีที่สุด ดังนั้นจึงมีวิธีการดูแลตัวเองเพื่อให้คุณปลอดจากอาการอันไม่พึงประสงค์ให้หงุดหงิดใจ
1.ขจัดความอับชื้น
เรื่องของชุดชั้นในที่คุณผู้หญิงใส่อยู่ก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่จะก่อให้เกิดเชื้อราในช่องคลอด โดยเฉพาะกางเกงในที่ระบายอากาศไม่ค่อยดี มีความอับชื้น และชุ่มเหงื่อ ยิ่งในหน้าฝนที่เสื้อผ้ามักจะแห้งไม่สนิทก็อาจมีสปอร์เชื้อราอยู่ ดังนั้นควรดูแลชุดชั้นในของคุณให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ และควรตรวจตราคอยเคลียร์ชั้นในตัวเก่าที่ซุกอยู่ก้นตู้เพราะอาจมีสปอร์ติดอยู่ด้วย
นอกจากนี้การใส่ผ้าอนามัยระหว่างมีประจำเดือน ก็ควรต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ และหากไม่ได้อยู่ในช่วงรอบเดือนก็ไม่ควรต้องใส่ผ้าอนามัย เพราะจะทำให้เกิดการอับชื้นมากกว่า
2.ความสะอาดแต่พอดี
สำหรับผู้ที่ชอบใช้น้ำยาเพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ถ้าใช้นานก็อาจทำให้ความเป็นกรดด่างในช่องคลอดเปลี่ยนแปลง เป็นสาเหตุทำให้มีเชื้อราขึ้นได้ และบางคนอาจแพ้สารเคมีในน้ำยาอีกด้วย ซึ่งการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นนั้น เพียงใช้สบู่และน้ำธรรมดาก็เพียงพอ
3.ลดของหวาน
การกินของหวานหมายถึงการที่คุณจะมีปริมาณน้ำตาลในเซลล์ต่าง ๆ เยอะขึ้น ซึ่งพบว่าเป็นอาหารโปรดของเชื้อรา ทำให้เจริญเติบโตได้ดี คนไข้ที่เป็นเชื้อราในช่องคลอดบ่อย ๆ คุณหมอก็จะให้หลีกเลี่ยงน้ำตาลและของหวาน
4.ระวังการกินยา
เพราะสำหรับคนที่กินยาแก้อักเสบ กินยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน หรือได้รับยาประเภทกดภูมิคุ้มกัน เช่นโรคเลือดหรือการทำเคมีบำบัดนั้น จะส่งผลให้แบคทีเรียในช่องคลอดลดลง ทำให้ความสมดุลกรดด่างในช่องคลอดเปลี่ยนไป เชื้อราก็จะเจริญเติบโตขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ง่าย
เป็นแล้วรักษาอย่างไร
สำหรับการรักษาเชื้อราในช่องคลอดนั้น ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ให้ยารับประทาน และการรักษาในช่องคลอด ซึ่งเป็นสอดยาฆ่าเชื้อราเข้าไปในช่องคลอด มีทั้งในรูปของยาเม็ดและยาทา
การดูแลสุขภาพและอนามัยของตนเอง ให้ตัวเราปลอดจากเจ้าเชื้อราตัวร้ายไม่ใช่ เรื่องยาก เพราะเป็นเชื้อรานาน ๆ เข้า แม้จะไม่มีอันตรายร้ายแรง นอกจากจะมีอาการคันร่มผ้าที่ทำให้เสียบุคลิก ยังจะมีอาการคันใจเข้ามาด้วย
เรื่องควรรู้ของแม่ท้องกับเชื้อรา
การเกิดเชื้อราในช่องคลอดที่พบมากที่สุดเลยคือเมื่อตั้งครรภ์ เพราะแม่ท้องจะมีฮอร์โมนออกมามาก ซึ่งไปกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดด่างในช่องคลอด ทำให้เชื้อรามีอาหารที่จะเจริญเติบโตมากขึ้น ทำให้มีระดูขาวมากขึ้น และอาจมีการอักเสบของปากช่องคลอด
เชื้อราในช่องคลอดนั้นจะไม่ผ่านไปสู่ลูก แต่หากแม่ท้องเป็นเชื้อราในช่องคลอดแล้วไม่ได้รักษาให้หาย และเป็นเชื้อราในช่องคลอดขณะที่คลอดลูกผ่านทางช่องคลอด จะทำให้เด็กอาจมีเชื้อราในลิ้น ในปาก และก้นได้
การรักษาอาการนี้สำหรับแม่ท้อง แพทย์มักจะให้ยาทาหรือยาสอด แต่ไม่ให้ยา เพราะกลัวจะมีผลถึงเด็กในครรภ์
เมื่อคุณแม่ท้องมีอาการคันที่อวัยวะเพศ หรือมีระดูขาวมาผิดปกติ ก็ควรบอกคุณหมอเพื่อจะได้ทำการตรวจและรักษาต่อไป ซึ่งอาการนี้อาจจะไม่ได้เกิดในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ก็ต้องคอยสังเกตตัวเองอยู่เป็นระยะ
สังเกตอาการ
อาการของผู้ที่มีปัญหาเชื้อราในช่องคลอด จะมีอาการคันบริเวณแถว ๆ ปากช่องคลอด หรืออาจจะมีระดูขาวที่มากผิดปกติ มีลักษณะคล้ายแหวะนมเด็ก เป็นเม็ดขาว ๆ ถ้าเป็นมาก ๆ ก็จะคันบริเวณปากช่องคลอด หากเกามาก ๆ ก็จะเกิดการอักเสบต่อไปได้ ซึ่งเมื่อมีอาการเช่นนี้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อการรักษาต่อไป
แต่หากคุณเป็นซ้ำเกินปีละ 4 ครั้ง ถือว่าเป็นอาการเรื้อรัง อาจต้องรักษายาวด้วยการให้ยาถึง 6 อาทิตย์ ซึ่งอาการเรื้อรังเช่นนี้ อาจเป็นอาการแอบแฝงของโรคอื่น เช่น เบาหวาน ได้ด้วย
วิธีป้องกัน
1. กินโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ เพื่อเพิ่มแลคโตบาซิลลัสในช่องคลอด จะสามารถช่วยลดอัตราการเป็นเชื้อราในช่องคลอดได้
2. กินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลทีมีดัชนีไกลซีมิกต่ำ เพื่อให้น้ำตาลในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นที่ละน้อย
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ภาวะแพ้อาหารทำให้อาการของโรคแย่ลง
4. ผ่อนคลายความเครียด เพราะความเครียดเป็นสาเหตุให้โรคกำเริบ
5. หลีกเลี่ยงกางเกงชั้นในที่นัดแน่น ควรสวมใส่เสื้อผ้าสบาย
6. การทำความสะอาด ควรใช้น้ำสะอาดเท่านั้น
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : salute,Momypedia,สสส.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี