ริรินดา พูนพิพัฒน์
จาก “สกู๊ปแนวหน้า” - “ตึกสูง” ทำ “บ้านร้าว-ถนนพัง พัฒนาหรือสร้างปัญหาให้ท้องถิ่น?” ฉบับวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2557 วันนี้เรามีตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการก่อสร้าง โครงการ “D’Memoria Phaholyothin 8” คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 128 ยูนิต ถนนพหลโยธิน ซอย 8 หรือซอยสายลม ที่กำลังจะกลายเป็นบ้านใหม่ของหลายคน แต่ขณะเดียวกันก็กำลังจะทำให้ใครหลายคนไม่สามารถพักอาศัยในบ้านของตนเองที่ใช้ชีวิตมาชั่วชีวิตของตัวเองได้มานำเสนอ
ณัชชา ศรีกิจจา
ริรินดา พูนพิพัฒน์ เจ้าของบ้านเลขที่ 54 ในซอยสายลม เป็นหนึ่งในรายที่ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดจากการก่อสร้างโครงการ “ดี เมโมเรีย พหลโยธิน 8” เพราะบ้านของเธออยู่ติดกับโครงการ นับตั้งแต่เริ่มมีการรื้อถอนอาคารเดิมในพื้นที่โครงการ การลงเสาเข็ม ความเดือดร้อนที่เธอประสบคือ เสียงดัง การสั่นสะเทือน กลิ่นและควันจากเครื่องจักร และในระยะเวลาเพียงไม่ถึงเดือนพบว่าตัวบ้านและบริเวณโดยรอบมีรอยแตกร้าว ประตูหน้าต่างไม่สามารถปิดได้สนิท ฝ้าเพดานหลุดร่วง พื้นดินด้านข้างบ้าน และรั้วที่ติดกับโครงการทรุดตัว โดยส่วนตัวเธอได้มีการร้องเรียนไปยังเจ้าของโครงการ แต่เมื่อไม่ได้รับการเหลียวแล จึงได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
ชูพงษ์ กาญจนลักษณ์
“สิ่งที่เราตั้งข้อสงสัยและฟ้องต่อศาลปกครองในประเด็นคือ สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) ให้ผ่านรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment) หรือ EIA ได้อย่างไร ในเมื่อโครงการทำ EIA โดยรายงานว่าบ้านดิฉันไม่มีผู้อยู่อาศัย เพราะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด และบ้านผู้เสียหายอีกรายเป็นบ้านร้าง ซึ่งไม่เป็นความจริง ทั้งตัวดิฉันและผู้เสียหายอีกรายที่มีบ้านอยู่ติดด้านหลังโครงการ ไม่ได้รับการติดต่อในการจัดทำ EIA ของโครงการ ประเด็นต่อมา ถนนหน้าโครงการมีความกว้างตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ และถนนนั้นเป็นถนนสาธารณะหรือถนนส่วนบุคคล เพราะหากเป็นถนนส่วนบุคคลคือเป็นที่ดินมีโฉนดจะไม่สามารถก่อสร้างอาคารชุดนิติบุคคลได้ ตอนแรกที่มีปัญหาเกิดขึ้นก็มืดแปดด้าน ไม่มีที่พึ่ง เครียดนอนร้องไห้ทุกคืน เพราะเราไม่รู้จะไปพึ่งใคร แต่ในที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนในการมาเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายและเป็นผู้ฟ้องโครงการร่วมกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน”
วิศรุต ครุฑไกรวัล
ณัชชา ศรีกิจจา เจ้าของบ้านเลขที่ 46 ซอยสายลม 2 ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของโครงการ ได้รับผลกระทบหนักอีกหลังหนึ่งจากการก่อสร้างโครงการ บ้านหลังนี้ดิฉันเข้ามาอยู่ได้เพียง 2 ปี โดยไม่รู้ว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมขึ้นอยู่ติดรั้วบ้านตนเองขนาดนี้ เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อบ้านในซอยสายลม เพราะพิจารณาแล้วว่า มีความสงบเงียบ ปลอดภัย การคมนาคมสะดวก โดยใช้บ้านหลังนี้เป็นทั้งที่พักอาศัยและประกอบธุรกิจ แต่เมื่อเริ่มก่อสร้างโครงการ ดี เมโมเรีย พหลโยธิน8 ชีวิตที่เคยปกติสุขก็เปลี่ยนไป บ้านได้รับความเสียหาย ธุรกิจต้องหยุดชะงัก ลูกชายเป็นโรคภูมิแพ้อย่างหนัก และรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยทั้งที่อยู่ในบ้านของตนเอง รั้วบ้านพังโครงการก็ไม่แสดงความรับผิดชอบอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับกล่าวหาว่าบ้านของเราเก่า โครงสร้างไม่แข็งแรงเอง มันแสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของเจ้าของโครงการ ในการร่วมเป็นโจทย์ฟ้องศาลปกครองเพื่อให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ในฐานะประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างสาหัส ก็หวังให้ศาลเป็นที่พึ่งให้เห็นใจและให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน
ริรินดา ชี้ให้ดูรอยแตกกว้างขนาดนิ้วสอดได้
ชูพงษ์ กาญจนลักษณ์ บ้านเลขที่ 28 สายลม 1 บ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับโครงการ เผยความรู้สึกว่า แม้ตอนนี้บ้านของตนยังไม่แตกร้าวเหมือนบ้านของ คุณริรินดา และ คุณณัชชา แต่ก็ได้รับความเดือดร้อนและมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะฝุ่นผงจากการขนวัสดุ อุปกรณ์ การก่อสร้าง อิฐ หิน ดิน ทราย รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เข้า-ออก ก็มาจอดขวางหน้าบ้าน ใช้หน้าบ้านของตนเป็นที่ทำความสะอาดก่อนออกสู่ถนนใหญ่ ท่อประปาแตกเพราะรถบรรทุกของโครงการ ตอนเย็นคนงานก่อสร้างก็ใช้หน้าบ้านตนเป็นที่รอรถมารับและนั่งดื่มแอลกอฮอล์ ระหว่างการก่อสร้างก็มีมลพิษทางเสียง บ้านสั่น ตอนนี้บ้านอาจจะยังไม่แตกร้าว แต่ใครจะรับประกันได้ถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง โครงการคอนโดมิเนียมตึกสูงไม่ควรมาอยู่ในซอยแบบนี้ เพราะจะทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยมาก่อนมีแต่จะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน
กำแพงบ้านที่ติดกับโครงการใกล้ล้ม
วิศรุต ครุฑไกรวัล เลขาธิการสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า จากพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สมาคมฯ เห็นว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากโครงการทั้งขณะที่มีการก่อสร้าง และปัญหาที่จะเกิดขึ้นเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จึงได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้ถอนใบอนุญาตการก่อสร้างโครงการ ดี เมโมเรีย พหลโยธิน 8 โดยมีสมาคมฯ เป็นโจทย์ที่ 1 ร่วมกับชาวบ้านในซอยสายลมที่ได้รับความเดือดร้อนรวม 24 ราย ซึ่งขณะนี้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองให้หยุดก่อสร้างชั่วคราว จนกว่าโครงการจะแสดงหลักฐานต่อศาลให้เชื่อได้ว่าความเสียหายของบ้านคุณริรินดาและผู้เสียหายรายอื่นๆ มิได้เกิดจากการก่อสร้างโครงการ รวมถึงแสดงให้ศาลเห็นว่าการก่อสร้างจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ฟ้องร้องทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทางสมาคมฯ และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมีความเห็นตรงกันว่า จะร้องต่อศาลให้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง พูดง่ายๆ คือ ยุติการก่อสร้างโครงการไปเลย
“ในการฟ้องร้องจะได้ชี้ให้ศาลเห็นว่า โครงการ ดี เมโมเรีย พหลโยธิน 8 สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมต่อทรัพย์สินและอาจถึงแก่ชีวิต ไม่ว่าการก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ ที่เกิดจากฝุ่น ควัน มลพิษทางเสียง ระหว่างการก่อสร้าง การก่อสร้างทำให้อาคารบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้กับโครงการได้รับความเสียหายจนเป็นอันตรายต่อเจ้าของบ้าน หากเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จมีผู้เข้าอยู่อาศัย ปัญหาที่ตามมาคือ การจราจร เพราะโครงการ 123 ยูนิตแต่มีที่จอดรถให้กับผู้อาศัยเพียง 60% ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงพอ ผู้ที่อาศัยในคอนโดต้องนำรถมาจอดที่ริมถนนในซอย ทำให้การจราจรติดขัดมากกว่าเดิม เพราะทุกวันนี้ในซอยสายลมก็มีปัญหาการจราจรในช่วงเช้าและเย็นมากพออยู่แล้ว เพราะเป็นซอยลัดระหว่างถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต เมื่อมีอาคารสูง 8 ชั้น กระทบต่อระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อมภายในชุมชน ทางลม บังแสงแดด ของตกหล่นจากที่สูงมายังเบื้องล่าง การสะท้อนแสงของกระจกอาคารสูงเป็นอันตรายต่อสายตา ระบบสาธารณูปโภคที่มีรองรับแต่ชุมชนขนาดเล็ก ไม่ได้มีไว้สำหรับโครงการหรือชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้จะเห็นได้ว่าปัญหาต่างๆ ได้เริ่มปรากฏและทวีความรุนแรงขึ้น อันแสดงให้เห็นถึงเจ้าของโครงการคำนึงถึงผลประโยชน์กำไรจากการดำเนินธุรกิจขายคอนโดมากกว่า ประโยชน์ส่วนร่วม ในอนาคตเมื่อมีผู้เข้าอาศัยในคอนโดนี้ ก็จะต้องมีปัญหากับชาวบ้านที่อยู่เดิมอย่างแน่นอน จากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดสมาคมฯ จะชี้ให้ศาลเห็นว่าไม่สมควรที่โครงการนี้จะเกิดขึ้นภายในพื้นที่ เพราะมีแต่ความเสียหายมากกว่าจะเป็นผลดีกับประชาชนผู้อยู่อาศัยเดิม”
เลขาธิการสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินการทางกฎหมายฟ้องร้องต่อศาลอาจกินเวลา 2-3 ปี กว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดี แต่สมาคมฯ จะทำงานนี้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในซอยสายลมและคิดว่าตนเองเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือความเสียหาย สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการเรียกร้องร่วมกับสมาคมฯและผู้เสียหายรายอื่นๆ ได้ตลอดเวลา เพื่อความสงบสุขของชาวสายลมทุกคน
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการก่อสร้างโครงการต่างๆ สามารถทำหนังสือร้องเรียนไปได้ที่ สำนักงานเขตหรืออำเภอที่ตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด และในกรณีโครงการที่มีการทำ EIA จะต้องร้องไปยังสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในท้องที่ ภายใน 90 วัน หากได้รับหรือไม่ได้รับหนังสือตอบกลับจากหน่วยงานที่ร้องไปแล้วจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี